นครพนม – รถแห่สงกรานต์เย้ยกฎหมายไม่รอด ผวจ.นครพนม สั่งใช้กฎหมายทุกฉบับดำเนินคดี วาทะซ้ำซาก”รู้เท่าไม่ถึงการณ์” กระอักมีโทษคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน
วันที่ 18 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้ากรณีมีคลิปเผยแพร่ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 ความยาว 15.10 นาที พร้อมขึ้นชื่อตัวหนังสือว่า ”ดงหมากเผ็ด…เอ้ย!!!” ระบุผู้นามโพสต์ #อิสระโปรดักชั่น #ยูทงมูสิค #ซอนแลน เป็นภาพรถแห่เปิดเพลงจังหวะสนุกให้คนเต้นเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน บางคนโชว์แก้วเหล้าแก้วเบียร์ยกซด โดยไม่สนคำสั่งที่ทางจังหวัดนครพนมออกมาแต่อย่างใด หลังภาพดังกล่าวเผยแพร่ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเป็นการรื่นเริงที่บ้านพืชผล (บ้านดงหมากเผ็ด) หมู่ 4 ต.นางัว อ.บ้านแพง โดยในคลิปมีรักษาการกำนันตำบลนางัวรวมอยู่ด้วย จึงสั่งให้ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
โดยมอบหมายให้ นายชยณัฐ ประทุมมาตย์ ปลัดอำเภอรักษาราชการแทนนายอำเภอบ้านแพง เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เบื้องต้นจำนวน 2 ราย คือ นายมีชัย เลิศสกุลไพบูลย์ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านพืชผล ต.นางัว รักษาการกำนันตำบลนางัวผู้ปรากฏอยู่ในคลิปอย่างชัดเจน และนายชัยวัฒน์ สาสอน อายุ 35 ปี เจ้าของรถแห่ที่เป็นคนในพื้นที่ดังกล่าว ในข้อหาฐานความผิดฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนครพนมเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโรคโควิดระบาด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยนายมีชัยให้การว่ารู้ถึงเท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ทราบว่าการจัดงานรื่นเริงภายในหมู่บ้านจะฝ่าฝืนคำสั่งของจังหวัดนครพนมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด
ข่าวน่าสนใจ:
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.สภ.บ้านแพง เปิดเผยว่าหลังจากได้รับคำสั่งจากทางจังหวัดให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบหลักฐานความผิดชัดเจนจากคลิปวีดีโอที่มีการเผยแพร่ ซึ่งเป็นการกระทำผิดเย้ยกฎหมายขัดคำสั่งจังหวัดนครพนม เกี่ยวกับการควบคุมโรคระบาด เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบ เรียกผู้กระทำผิดมาแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 2 ราย คือนายมีชัย เลิศสกุลไพบูลย์ และ นายชัยวัฒน์ สาสอน ส่วนที่เหลือได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบจากคลิปวีดีโอ และจะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อ สรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม โดยมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยเกี่ยวเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงแถลงข่าวโรคโควิด ว่า “ผมก็เป็นลูกชาวบ้านเข้าใจวิถีในชุมชนดี แต่ถ้าเรื่องไหนมันไม่เกินไปผมไม่เคยจะสั่งดำเนินการ ถ้าเราไม่ร่วมมือป้องกันแล้วจะไปขอความร่วมมือจากใครที่ไหนได้ ช่วงนี้ก็รู้ๆอยู่ว่าอันไหนควรไม่ควร เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ที่เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำบ้าง ผมเห็นภาพข่าวเห็นบุคลากรทางการแพทย์อ่อนเพลียนอนฟุบหลับคาโต๊ะทำงานแล้ว รู้สึกเห็นใจที่พวกเขาอุทิศตนเองเพื่อประชาชนฯ”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: