นครพนม – จังหวัดนครพนมจับมือ 6 องค์กรเอกชน ร่วมใจ kick off ฉีดพ่นยาฆ่าโควิดรอบเขตเทศบาลเมือง ครูแก้วมอบชุด PPE แก่ทีมปฏิบัติงาน ประชาชนปรบมือเกรียว
วันที่ 20 เมษายน 2564 เวลา 21.00 น. ณ ลานตะวันเบิกฟ้า ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(นายก อบจ.ฯ) นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอเมืองนครพนม และเทศบาลเมืองนครพนม ร่วมกับ 6 องค์กรภาคเอกชน ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดนครพนม สมาคมพ่อค้าจังหวัดฯ สมาคมไทยเวียดนามจังหวัดนครพนม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ สมาคมนักข่าวจังหวัดนครพนม ร่วมใจ kick off เดินหน้าหยุดเชื้อโควิดโดยมีการพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด ทั้งนี้ได้นำเครื่องมือที่มีศักยภาพเป็นรถพ่นยาฆ่าเชื้อโควิดขนาดใหญ่ จำนวน 2 คันพร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อ ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างความปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยมีทีมกู้ภัยศรีสัตตเป็นชุดปฏิบัติงาน
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย และ อบจ.นครพนม ได้มอบชุด PPE จำนวน 300 ชุด และ น้ำยาฆ่าเชื้อจำนวน 72 ขวดมอบให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตตเพื่อนำไปสวมใส่ระหว่างฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงสถานที่สำคัญ และเส้นทางจุดเสี่ยงทั่วเมือง
โดยจะเริ่มจากถนนสุนทรวิจิตรไปจนถึงถนนสวรรค์ชายโขง จุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัด วนกลับมาที่องค์พญาศรีสัตตนาคราชแลนด์มาร์คชื่อดัง เข้าสู่ถนนนิตโยและเลี้ยวเข้าถนนอภิบาลบัญชาไปจนสุดโรงพยาบาลนครพนม การฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อครั้งนี้ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยได้รับคำชื่นชมจากประชาชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนมเป็นอย่างมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม มีความห่วงใยด้านความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก ในโลกโซเซียลส่วนหนึ่งต้องการให้ปิดเมืองเพื่อป้องกันโควิดเหมือนปีที่ผ่านมา ท่านก็ได้ให้ความเห็นว่าถ้าปิดเมืองผู้ว่าฯยิ่งสบาย ไม่ต้องทำอะไรมาก รอคนป่วยโควิดเดินมาหาหมอแล้วรักษา และการที่ห้ามคนต่างจังหวัดเข้าเมืองก็คงทำไม่ได้ เหตุผลคือต้นทางที่เขาเดินทางมายังไม่ปิดกั้นเลย แล้วเราเป็นใครจะห้ามเขาไม่ให้เข้า อีกอย่างปีที่แล้วมีประกาศล็อกดาวน์กรุงเทพฯ ห้ามออกจากบ้าน และห้ามจำหน่ายเหล้า แต่ปีนี้ธุรกิจบอบช้ำมาก ถ้ามีมาตรการเหมือนปี 2563 ชาวบ้านระดับล่างจะเอาอะไรกิน เพียงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด สวมแมสก์ เว้นระยะห่าง ไม่ไปในสถานที่เสี่ยงจะห่างไกลโควิดแน่นอน
