นครพนม – วันที่ 21 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนม ว่า ผลกระทบจากโรคโควิดระลอกใหม่สายพันธุ์อังกฤษได้ระบาดขยายวงกว้างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่ทีมแพทย์ลุยตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกจนพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 52 ราย ทางจังหวัดจึงต้องออกมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แม้จะส่งผลกระทบผู้ประกอบการค้า ธุรกิจการท่องเที่ยวรายใหญ่ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พักลูกค้าหดหายเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ประกอบการเข้าใจดีว่าเหตุการณ์เช่นนี้เป็นเหตุสุดวิสัย จึงพร้อมให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดในการป้องกันการแพร่เชื้อ
และยังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่หาดแห่ทะเลอีสาน ในพื้นที่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีน (Unseen) ยอดฮิตโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำโขงลดจึงเกิดสันดอนทรายเป็นพื้นที่กว้างทุกปีชาวบ้านละแวกนั้นจึงมีความคิดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการปรับพื้นที่บริเวณหาดแห่ มีร้านค้าซุ้มร้านอาหาร บริการเมนูอาหารหลากหลายชนิด เน้นเป็นเมนูปลาน้ำโขง และเครื่องดื่ม บริการประชาชน นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมพักผ่อน นั่งรับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติสองฝั่งโขง รวมถึงบริการอุปกรณ์เล่นน้ำคลายร้อน มีบริการ ห่วงยาง เจ็ทสกี บานาน่าโบท เทียบชั้นทะเลบางแสน ยิ่งในช่วงฤดูร้อนสงกรานต์ ปิดภาคเรียน จะสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนวันละหลายแสนบาท บางครอบครัว สามารถทำเงินได้วันละครึ่งแสน และยังสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ครบวงจร
หลังจากหาดแห่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาด ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถเปิดบริการได้ และเพิ่งเปิดบริการได้ในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ 2564 เพียงไม่กี่เดือน กำลังมีรายได้ชดเชยรายได้ที่ขาดหาย แต่กลับมาได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาดครั้งที่ 3 อีกครั้งหนึ่ง ทางจังหวัดนครพนมจึงได้มอบหมายให้ อ.ธาตุพนม มีคำสั่งปิดบริการหาดแห่กลางคัน ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านขาดรายได้ แต่ต้องทำใจเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมป้องกันโรคโควิดระบาด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้าน คาดว่าหากสามารถเปิดบริการได้ต่อเนื่อง จะสร้างรายได้มีเงินหมุนเวียนอีกนับล้านบาท และต้องเร่งขนสิ่งของขึ้นไว้บนบก บางรายขาดทุนหนัก เพราะเพิ่งซื้อของมาลงทุนเตรียมจำหน่าย แต่ถูกสั่งปิดกลางคัน ต้องหันไปหาทำอาชีพอื่นชดเชย
นายไทยพนม เนตรวงส์ อายุ 25 ปี ชาวบ้าน ต.น้ำก่ำ เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งใจจะทำเงินเปิดหาดแห่ ช่วงก่อนสงกรานต์ลากยาวไปถึงเดือนพฤษภาคม หรือจนกว่าน้ำโขงจะเพิ่มระดับ เพราะปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากโควิดไม่สามารถเปิดได้ ปีนี้เปิดได้แค่ ประมาณ 2 เดือน ก็เจอพิษจากโรคโควิดระบาดอีกรอบต้องถูกสั่งปิดกลางคัน ชาวบ้านที่เคยมีรายได้พลอยตกงาน ต้องไปหาปลาในแม่น้ำโขงชดเชยแทน ขณะที่ปลาก็ยิ่งหายากกระทบทุกอย่างทั้งการค้าขาย ยอมรับปีนี้เดือดร้อนมาก เพราะถ้าเปิดขายไปได้อีก 1 -2 เดือน คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนสะพัดในพื้นที่นับล้านบาท
