นครพนม – ผู้ว่านครพนม จ่อสอบเอาผิดผับดังต้นเหตุแพร่โควิด มีเด็กวัย 18 เที่ยวฉลองปิดเทอม ผู้ป่วยทะลุ 100 รักษาหาย 15 ดับ 1 ป่วยเพิ่ม 2 ราย
วันที่ 30 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยติดโควิดเพิ่มอีก 2 ราย รวมยอดสะสม จำนวน 102 ราย มีเสียชีวิตแล้ว 1 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 15 ราย ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง ที่มีการเที่ยวผับดังในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และบางส่วนมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด โดยทางจังหวัดนครพนม และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ยังคงมีมาตรการเข้ม ในการตรวจสอบคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ทั้งพื้นที่ 12 อำเภอ พร้อมมีคำสั่งปิดสถานบันเทิงหรือสถานบริการกลุ่มเสี่ยงชั่วคราว รวมถึงคัดกรองบุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตั เป็นเวลา 14 วัน
ข่าวน่าสนใจ:
ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ จ.นครพนม ถึงแม้จะมีจำนวนผู้ป่วยเริ่มน้อยลง แต่ยังคงต้องเพิ่มความเข้มข้นต่อเนื่องในการตรวจสอบคัดกรองป้องกัน ร่วมกับทุกภาคส่วน ประชาชนทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาด สิ่งสำคัญตนยืนยันไม่ได้ละเลย ในการทบทวนเกี่ยวกับสาเหตุที่มาของการระบาด เนื่องจากส่วนใหญ่ จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วยพบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง และมีไทม์ไลน์เชื่อมโยงกับผับชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครพนม เกือบทุกราย ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนเชิงลึก ถึงสาเหตุที่มาหากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยขาดการเอาใจใส่ไม่มีมาตรการดูแลป้องกัน จะต้องดำเนินการตามกฎหมายภายหลังการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ยังมีไทม์ไลน์สำคัญ พบเยาวชนอายุ 18 ปีที่ป่วยติดเชื้อ มีไทม์ไลน์ เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนั้นถือว่าผิดกฎหมาย ปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดเข้าไปเที่ยว ตนยืนยันว่าไม่ได้ขู่เอาจริง หากมีการสรุปหลักฐานการสอบสวนชัดเจน จะต้องดำเนินการทางกฎหมายเด็ดขาด ถึงขั้นปิดถาวร เพราะตนไม่มีส่วนได้เสียกับใคร และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าดำเนินการตามกฎหมายทุกรายไม่มีละเว้นหากพบฝ่าฝืนกฎหมาย นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่มีการปล่อยให้ลูกบ้านจัดงานสงกรานต์รถแห่ เล่นน้ำ ดื่มสุรา รื่นเริง ไม่เพียงมอบหมายให้ตำรวจดำเนินคดีทุกรายที่เกี่ยวข้อง และผู้ใหญ่บ้าน ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ที่ติดเชื้อจากการกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงคือจังหวัดปทุมธานี นอกจากไม่กักตัวเองแล้วยังมีไทม์ไลน์ไปในหลายๆสถานที่ ในส่วนของผู้ใหญ่บ้านทั้งสองได้มีการสอบสวนเอาผิดทางวินัยด้วย โทษสูงสุดไม่ถึงขั้นให้ออก แต่จะต้องมีการตัดเงินเดือนตามระเบียบ อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินการ อย่างไรก็ตามฝากประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลควบคุม เพื่อความปลอดภัยของชาว จ.นครพนม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: