นครพนม – ชาวจังหวัดนครพนมเฮ !! สสจ.ฯเผยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ผลจากการตรวจค้นหาเชิงรุก ผลงานสยบสายเกรียนผู้รอบรู้ทุกเรื่อง
วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ลงข้อความว่า “ฝันที่เป็นจริงเย้เย้” เนื่องจากการตรวจค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ประจำวันที่ 2 พค.ไม่พบมีผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด หลังลงโพสต์เพียงไม่กี่นาทีก็มีคนกดไลค์และแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก และแชร์ไปอีกกว่า 100 แชร์
การทำงานท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วประเทศไทย จังหวัดนครพนมต้องทำงานกันอย่างหนัก สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) รวบรวมสรรพกำลังบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยงานหามรุ่งหามค่ำ ในขณะที่สายเกรียนพวกใช้ปากพูดมากกว่าทำ เป็นตัวเป็นกูรูรู้ไปทุกเรื่องตำหนิการทำงานของจังหวัดนครพนม พร้อมอ้างถึงอดีตผู้ว่าราชการคนก่อนว่าทำงานบริหารจัดการรวดเร็วทันใจ ซึ่งผู้ว่าราชการคนปัจจุบันนายไกรสร กองฉลาด ก็ไม่ได้ออกมาชี้แจงหรือตอบโต้ยังคงก้มหน้าก้มตาทำงานร่วมกับ นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์ สสจ.ฯ โดยการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ มีมติเห็นด้วยกับแนวคิดของ นพ.มานพฯ ผู้เรียนจบด้านระบาดวิทยามาโดยตรง ว่า หากตั้งรับอยู่แบบนี้โอกาสผู้ติดเชื้อจะแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นอีกเป็นจำนวนมาก จึงโล๊ะทิ้งระบบตั้งรับมาเป็นการรุกเข้าหาผู้สงสัยที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันผล ด้วยการจับมาตัวค้นหาทุกรายที่อยู่ในวงรัศมีนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- จ.นครพนม บูรณาการร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลลอยกระทง 2567
- นบ.ยส.24 บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือตรวจพื้นที่อาคารหลังศูนย์ฟื้นฟู…
- กล้องวงจรปิดจับภาพ แม่รับลูกซ้อน 4 กลับจากโรงเรียน ชนรถ พ่วงบาดเจ็บสาหัส ลูกร้องระงม
- มรภ.ราชนครินทร์ ผุดหลักสูตรคลายเหงาผู้สูงวัย รองรับสังคมไทยในอนาคต
ครั้งแรกแม้ผลตรวจจะออกมาเป็นลบ ก็ไม่ได้ยอมให้ผู้ต้องสงสัยเหล่านั้นออกไปเพ่นพ่าน ยังให้กักตัวเองอีก 14 วัน ประมาณ 7-10 วันก็มาตรวจครั้งที่ 2 บางรายก็เจอเชื้อ ตรงกันข้ามบางรายอาจไม่เจอเชื้อแต่ก็ไม่นิ่งนอนใจ จึงยืดการตรวจออกไปอีก 1 อาทิตย์แล้วตรวจเป็นครั้งที่ 3 ปรากฏว่าพบเชื้ออยู่ในตัวของผู้ต้องสงสัยจริงๆ ดังนั้นตัวเลขการพบเชื้อในจังหวัดนครพนมดูว่าเพิ่มมาก แต่ระยะปลายจะลดลงจนถึงไม่พบผู้ป่วยอีกเลย และผลของการตรวจค้นหาเชิงรุกจึงมีคำตอบออกมาคือไม่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตามคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ การตรวจค้นหาเชิงรุกของจังหวัดนครพนม ได้มีจังหวัดอื่นๆเริ่มนำไปใช้แล้ว
ก่อนหน้าที่สายเกรียนกูรูผู้รอบรู้ทุกเรื่อง ดาหน้ามาถล่มผู้ปฏิบัติงานเสนอให้ปิดจังหวัดล็อกดาวน์เหมือนระบาดครั้งแรก โดยไม่ศึกษาว่าเชื้อโควิดได้กลายพันธุ์ออกเป็นหลายสายพันธุ์ (โดยในประเทศไทยระบาดครั้งแรกปี 2563 เป็นสายพันธุ์อู่ฮั๋น ประเทศจีน ระบาดครั้งที่ 2 เป็นสายพันธุ์อิตาลี มากับแรงงานชาวเมียนมา และครั้งล่าสุดเป็นสายพันธุ์อังกฤษ แพร่มาจากประเทศกัมพูชา) ซึ่งตรงนี้ ผวจ.นครพนม ชี้แจงว่าในครั้งแรกนั้นเขาล็อกดาวน์จากต้นทาง อาทิ กรุงเทพฯ เป็นต้น เมื่อต้นทางไม่ปล่อยคนออกมาต่างจังหวัดก็ไม่มีการเดินทาง ต่างกับปัจจุบันที่ไม่มีการล็อกดาวน์หากจังหวัดนครพนมปิดเมืองเพียงแห่งเดียว จะห้ามการเดินทางสัญจรไปมาได้อย่างไร จะห้ามคนนครพนมเข้าออกจังหวัดตนเองได้หรือ และยิ่งล็อกดาวน์จังหวัดผู้ว่าฯสบายด้วยซ้ำไป
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน จังหวัดนครพนมพบผู้ป่วยโควิดระลอก 3 สายพันธุ์อังกฤษเมื่อวันที่ 11 เมย. จำนวน 1 ราย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภายในวันเดียวมียอดผู้ป่วยสูงสุดถึง 10 ราย คือวันที่ 19 เมย.ฯ และมีตัวเลขเพิ่มบ้างลดบ้างตามการตรวจค้นหาเชิงรุก ซึ่งผู้ป่วยที่ค้นพบ ได้แก่ คลัสเตอร์สถานบันเทิงชื่อดัง คลัสเตอร์เพื่อนรักฝากเชื้อ คลัสเตอร์ปลากระป๋อง คลัสเตอร์สาวคริสตัลคลับย่านทองหล่อหอบเชื้อมาญาติ คลัสเตอร์บุญรวมญาติร้อยเอ็ด รวมผู้ป่วยสะสม ณ วันที่ 1 พค.ฯ 106 ราย รักษาหาย 27 ราย และเสียชีวิต 1 ราย กระทั่งวันที่ 2 พค. ตรวจไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด นับเป็นข่าวดีที่ชาวจังหวัดนครพนมอยากได้ยิน นอกจากนี้มี 3 อำเภอที่ไม่พบผู้ป่วยแม้แต่รายเดียวคือ 1.นาทม 2.โพนสวรรค์ 3.นาแก
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 เป็นคนขับแท็กซี่คาดว่าได้รับเชื้อจากผู้โดยสารชาวจีน ส่งผลให้ในเวลาต่อมา กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศเฝ้าระวังกลุ่มผู้ที่ทำงานกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากถือเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนามากที่สุด และในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 คนไทยเสียชีวิตเป็นรายแรก เป็นชายไทยอายุ 35 ปี ที่มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้วล้มป่วย ก่อนที่จะเสียชีวิต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: