นครพนม – วันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ที่จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เรียกประชุมด่วนคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) เพื่อหารือวางแผนร่วมกับตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ ในการช่วยเหลือชาวสวนสับปะรดหวานทั้ง 2 อำเภอที่ในช่วงนี้มีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในปริมาณที่มากตามฤดูกาล ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่ทำให้อาจจำหน่ายในพื้นที่ได้น้อย ซึ่งจะส่งผลต่อราคาที่ลดลงตามกลไกของตลาด อีกทั้งเป็นการป้องกันผลผลิตที่อาจจะได้รับความเสียหายหากเวลาผ่านไปนานกว่านี้
โดยในการหารือครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เน้นย้ำกับคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัด (เซลล์แมนจังหวัด) และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ ว่าอยากให้ราคาสินค้าดังกล่าวถึงเกษตรกรผู้ปลูกจริง ๆ ไม่อยากให้ทุกอย่างไปตกอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง เพราะฉะนั้นจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีทั้งระบบ ทั้งในเรื่องการกระจายจำนวนการรับซื้อที่ทั่วถึงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม การนำเงินส่งต่อยังตัวเกษตรกรที่ต้องเปิดบัญชีในลักษณะกลุ่มเกษตรกรไม่ใช่เปิดบัญชีในนามห้างหุ่นส่วนจำกัดที่เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยเบื้องต้นได้มีการประสาน Tops Supermarket ในการรับซื้อสับปะรดเพื่อไปวางจำหน่ายให้แล้ว ซึ่งทางห้างจะรับซื้อจำนวน 50 ตัน ในราคาลูกละ 15 บาทแต่ต้องคัดขนาดอยู่ระหว่าง 1.3-1.5 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้พานิชย์จังหวัดนครพนมประสานส่วนราชการ ห้างร้านและเครือข่ายเพื่อรับซื้อส่วนที่เหลือเพิ่มเติม รวมถึงการส่งมอบสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ เช่นในต่างจังหวัดที่จะให้ไปรษณีย์ไทยเป็นผู้กระจายสินค้า ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายเดิมที่กลุ่มเกษตรกรกำลังดำเนินอยู่ ที่ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร 064 – 3667223, 098-1707112, 080-1800015 และการส่งโรงงานที่ชลบุรีก็ให้คงไว้เช่นเดิม รวมถึงในส่วนของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ เช่น การเปิดช่องทางออนไลน์จำหน่ายผ่านทางเพจ facebook ตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ จังหวัดนครพนม และการไปรับมาจำหน่ายช่วย
ทั้งนี้สับปะรดที่เกษตรกรอำเภอท่าอุเทนและอำเภอโพนสวรรค์ปลูก เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครพนม ที่ได้รับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินปัญญาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยเป็นสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียสายน้ำผึ้ง ซึ่งได้มีการนําต้นพันธุ์มาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยลักษณะต้นพันธุ์มีรสเปรี้ยวแต่เมื่อเจอสภาพอากาศและสภาพดินในพื้นที่ทำให้สับปะรดกลายพันธุ์ มีรสหวานฉ่ำที่ในช่วงนี้จะมีค่าความหวานสูงถึง 18 บริกซ์ นอกจากนี้ยังมีเนื้อละเอียดแน่นสีเหลืองเข้ม ตาตื้น มีกลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ไม่ระคายคอ และแกนหวานกรอบรับประทานได้เช่นเดียวกับเนื้อแตกต่างไปจากพันธุ์เดิม โดยในปี 2564 นี้มีเกษตรกรปลูกสับปะรดทั้งสิ้น 5,500 ไร่ แบ่งเป็นอำเภอท่าอุเทน 4,000 ไร่ และอำเภอโพนสวรรค์ 1,500 ไร่
ข่าวน่าสนใจ:
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: