นครพนม – เผยปูมหลังสาวเสพยาบ้าจนเพี้ยน จุดเผาบ้านวอดทั้งหลัง อดีตเป็นคนร่าเริงขยันทำงาน ชีวิตหักเหเพราะผัวดึงเข้าวังวนยาเสพติด
สืบเนื่องจาก นางสาวอำภา แสนโคตร หรือเขียว อายุ 29 ปี คลั่งยาบ้าจนหลอนจุดไฟเผาบ้านตนเองจนดำเป็นตอตะโก ญาติต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวชนครพนมราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ดำเนินการรักษา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ณ บ้านเลขที่ 34 หมู่ 10 บ้านท่าศาลา ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
ล่าสุด วันที่ 17 พฤษภาคม นายณัฐพล แสนโคตร อายุ 39 ปี มีศักดิ์เป็นน้าชายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงสายๆจะพาญาติพี่น้องเดินทางไปเยี่ยมหลานสาว และเซ็นหนังสือยินยอมให้แพทย์รักษา รู้สึกเป็นห่วงเขาเช่นกัน ทราบในเบื้องต้นว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปส่งให้โรงพยาบาลจิตเวชฯ แพทย์ก็รักษาตามขั้นตอนของผู้ป่วยจิตเวช ให้ยาทานแล้วนอนพักผ่อนให้มากที่สุด
“ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ที่บ้านได้ประมาณ 3 ปี เริ่มเห็นผิดสังเกตเพราะเขามักจะเก็บตัวเงียบ ไม่ออกมาสุงสิงกับใคร ไม่สนใจข้าวปลาแม้กระทั่งการดูแลรักษาสุขภาพ และบ่นคนเดียวอยู่ในบ้าน เริ่มมีนิสัยก้าวร้าวทำลายข้าวของ จึงนำตัวไปรักษาที่ รพ.จิตเวชฯ แต่ก็หลบหนีกลับมา ตอนหลังต้องไปรับยาจิตเวชฯที่ รพ.โพนสวรรค์ เขาก็ไม่ค่อยสนใจยาที่แพทย์ให้มา เสียดายอนาคตเพราะเมื่อก่อนเขาเป็นคนร่าเริง ขยันทำมาหากิน ใครจ้างทำอะไรรับหมดจนเป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน มาเสียคนตอนที่ได้สามีพาเข้ายุ่งเกี่ยวยาเสพติดจึงกลายเป็นคนละคนตั้งแต่นั้นมา” นายณัฐพล กล่าว
ด้าน นางทองมา แสนโคตร อายุ 78 ปี มีศักดิ์เป็นยายของ น.ส.เขียว กล่าวว่าเมื่อก่อนหลานสาวขยันทำงานมาก ใครว่าจ้างอะไรไม่เคยเกี่ยงงอน ส่วนเรื่องไปเสพยาบ้านั้นตนไม่ค่อยทราบเรื่องราว แต่เขามักจะมากินข้าวที่บ้านและขอเงินใช้เป็นบางครั้ง รู้สึกสงสารหลานที่ต้องมาเจอกับชะตากรรมเช่นนี้
ขณะเดียวกัน นายสุขา แก้วนามชัย อายุ 64 ปี และ นางสมร แก้วนามชัย อายุ 64 ปี สองสามีภรรยาที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านของ น.ส.เขียว เล่าเหตุการณ์ระทึกในวันเกิดเหตุว่า ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายนึกว่าคนทะเลาะกัน พอลุกออกมาดูเห็นไฟคุโชนแดงจ้าตอนนั้นตกใจจนทำอะไรไม่รู้ ไม่ได้หยิบคว้าสิ่งของใดๆ หากมีลมพัดบ้านตนต้องถูกเปลวไฟไหมไปอีกแน่นอน
นายสุขาเล่าต่อว่าอดีต น.ส.เขียวเป็นคนนิสัยดีมาก มีสัมมาคารวะพูดจ๊ะจ้าทุกคำ เพิ่งมาเสียคนตอนมีครอบครัว เสพยาบ้าจนสติหลอน บางครั้งก็ถือมีดกวาดแกว่งไปมา จึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะกลัวจะถูกทำร้าย ก่อนที่จะจุดไฟเผาบ้านตนไปหว่านแหในห้วย เห็นผู้หญิงคนหนึ่งดำผุดดำว่ายอยู่กลางหนองในมือก็ถือมีด พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆเป็น น.ส.เขียวแก้ผ้าล่อนจ้อนอาบน้ำ ตนจึงรีบกลับบ้านเพราะกลัวถูกทำร้าย กระทั่งมาจุดไฟเผาบ้านตนเองดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: