นครพนม – พบผู้ป่วยโควิด – 19 เพิ่ม 1 ราย คลัสเตอร์รถตู้เที่ยวระทึก แนะประชาชนอย่าแชร์ข่าวลือเพราะสร้างผลกระทบและมีความผิด
วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมร่มฉัตรชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่ ซึ่งในวันนี้จังหวัดนครพนม มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขี้น 1 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อเป็น 135 ราย ทั้งนี้มีการรักษาหายแล้ว 120 ราย ยังคงรับการรักษาอยู่ 13 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยผู้ป่วยที่พบการติดเชื้อในครั้งนี้เป็นผู้ป่วยที่มาจากพื้นที่เสี่ยง กทม. ร่วมกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 124 ,125, 130, 131 และ 132 ของจังหวัดนครพนม ซึ่งระหว่างการเดินทางมานั้นได้เดินทางมาพร้อมกันด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวม 6 คน และได้เข้าทำการตรวจหาเชื้อพร้อมกันทันที แต่ครั้งแรกผู้ป่วยรายนี้ไม่พบการติดเชื้อจึงได้ทำการกักตัวเองที่บ้านตามมาตรการของจังหวัด กระทั่งในครั้ง 2 จึงมีผลยืนยันเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ จึงทำให้รายนี้ไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ดีทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ก็มีความกังวลและอยากประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกรณีในลักษณะนี้ว่า ขออย่าพยายามเดินทางจะดีกว่า เพราะมีความเสี่ยงที่จะกระจายเชื้อให้กับบุคคลอื่นกลายเป็นผู้ติดเชื้อวงที่ 2 ที่ 3 ตามมาได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจะส่งผลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสิ้นเปลืองงบประมาณในการรักษาเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ซึ่งปัจจุบันที่ กทม. มี รพ.สนาม ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกเป็นจำนวนมาก
และในโอกาสนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้กล่าวยืนยันเกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวลือที่แชร์กันไปว่าผู้ป่วยก่อนหน้านี้ของจังหวัดนครพนม ที่มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและทำงานอยู่ที่เขตหลีกสี่ กทม. เป็นผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์อินเดียนั้นไม่เป็นความจริง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังหาตัวผู้กระทำความผิดอยู่ เพราะเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จที่ทำให้เกิดการตื่นตระหนก ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งการที่จะทราบได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหนนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องมีการส่งตรวจอย่างละเอียดแต่ข่าวลือนี้ได้มีการเขียนเป็นเรื่องเป็นราวไปแล้ว โดยทุกวันนี้จังหวัดนครพนมยังไม่ได้รับการยืนยันว่าผู้ที่ได้รับเชื้อโควิด – 19 ที่มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครพนมเป็นสายพันธุ์ไหน จึงมีความเป็นห่วงประชาชนเพราะการแชร์ไปโดยที่ไม่ทราบข้อมูลแท้จริง ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไปด้วยเช่นเดียวกันกับผู้กระทำผิด
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: