นครพนม – พบป่วยโควิดเพิ่ม 2 ราย กลับจากพื้นที่เสี่ยง พร้อมตั้งรับนักเรียน นักศึกษาทยอยกลับภูมิลำเนา หลังเลื่อนการเปิดภาคเรียน ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาบุคคลกลุ่มเสี่ยงไม่กักตัว แนะประชาชนรีบลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนให้มากที่สุด
วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ณ ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ร่วมแถลงสถานการณ์ Covid 19 ในจังหวัดนครพนม พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย รวมป่วยสะสม 137 ราย รักษาหายแล้ว 120 ราย เสียชีวิต 2 ราย
นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.นพ. กล่าวถึงสถานการณ์โควิดในจังหวัดนครพนม ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย 1 ในผู้ป่วยเป็นเด็กหญิง อายุ 12 ปี เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงกับผู้ปกครองช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆเนื่องจากช่วงนี้ใกล้จะเปิดภาคเรียน จึงต้องเฝ้าระวังเด็กที่เดินทางกลับมากับผู้ปกครองมากเป็นพิเศษ เพราะหากมีเด็กที่ติดเชื้อไปโรงเรียน ก็จะมีโอกาสทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นได้ ในรายนี้ถือว่าโชคดีที่ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อก่อน และทางด้านผู้ป่วยและผู้ปกครองนั้นดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ถึงแม้จะเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว แต่ทั้ง 2 คนรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ จึงนั่งท้ายกระบะมาตลอดทางทำให้ไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่ม
ข่าวน่าสนใจ:
- ยิงทิ้งหนุ่มเมียนมาร์ 2 ศพ ริมชายแดนสวนผึ้ง ตำรวจตามรวบได้ที่ด่านแม่สอด
- ตม.ภูเก็ต รวบหญิงต่างชาติผิวสี เสนอขายบริการสร้างภาพลักษณ์เสื่อมเสียท่องเที่ยวภูเก็ต
- คิดจะค้ายาฯ ขอให้..คิดถึงคุก!!
- นบ.ยส.24 บูรณาการร่วมกับกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติด สสจ.นครพนม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือตรวจพื้นที่อาคารหลังศูนย์ฟื้นฟู…
ด้าน นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นพ.สสจ.นพ. รายงานถึงรายละเอียดของผู้ป่วยโควิด-19 ประจำวันที่ 25 พ.ค. 64 ว่าวันนี้พบผู้ป่วย 2 ราย รายที่ 136 เป็นเด็กหญิง อายุ 12 เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง โดยก่อนหน้านั้นผู้เป็นแม่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อของจังหวัดนนทบุรี จึงเดินทางเข้าขอรับการตรวจพร้อมกับผู้เป็นพ่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี แต่เนื่องจากคิววตรวจที่โรงพยาบาลเต็ม และเนื่องจากเจ้าของห้องพักให้ย้ายออก จึงต้องเดินทางกลับมาที่จังหวัดนครพนมด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 6 คน โดยที่ผู้ป่วยและพ่อนั่งท้ายกระบะจากนนทบุรีจนถึงนครพนม พอกลับมาถึงภูมิลำเนาก็เข้ากักตัวด้วยกันที่เถียงนาท้ายหมู่บ้าน ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ พบผลเป็นบวก ส่วนผู้เป็นพ่อผลเป็นลบจึงกักตัวและรอตรวจซ้ำอีกครั้ง
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 137 เป็นเพศชาย อายุ 22 ปี ทำงานเป็นช่างไฟฟ้า เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง(กทม.) โดยรถตู้รับจ้าง มีผู้โดยสารทั้งหมด 13 คน ผู้โดยสารสวมหน้ากากทั้งหมด เมื่อเดินทางมาถึงพื้นที่ก็เข้ารับการตรวจหาเชื้อพร้อมกับเพื่อนอีก1คนที่โรงพยาบาลนาหว้า ซึ่งผลออกมาเป็นบวก ส่วนของเพื่อนอีกคนเป็นลบ จึงเข้ารับการกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ โดยผู้โดยสารที่เดินทางมาร่วมกันทั้งหมดเข้ารับการตรวจแรกรับ ผลเป็นลบทั้งหมด และจะมีการตรวจซ้ำในอีก 2-3วันถัดไป และอีกประมาณ 7 วันก็จะตรวจซ้ำอีกเป็นรอบที่ 3
ในส่วนของการลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนนั้นมีอยู่ 5 ช่องทางตามที่ประชาสัมพันธ์ไป ซึ่งยังสามารถลงทะเบียนกันได้เรื่อยๆ เราจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนในช่วงต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งวันเวลาที่แน่ชัดหลังจากที่วัคซีนมาถึงแล้ว เราจะมีกระบวนการในการติดตามในกลุ่มของบุคคลอายุ 60 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรค แจ้งไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่าในช่วงนี้จะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.ไปติดต่อท่านเพื่อยืนยันการเข้ารับการฉีดวัคซีนอีกครั้ง เพราะว่าวัคซีนมีปริมาณจำนวนที่จำกัด ในกรณีที่ลงไปตรวจสอบแล้วท่านไม่ลงทะเบียนหรือไม่ยินยอมในการฉีดวัคซีน เราก็จะขยายไปฉีดให้กับกลุ่มต่อๆไป โดยกลุ่มอายุ 18-59 ปี หรือในส่วนของหน่วยงานต่างๆที่มีความประสงค์อยากจะฉีด ช่องทางที่ท่านสามารถจะติดต่อได้ตอนนี้ก็จะเป็นทาง Application LINE NPM-Covid19 หรือสามารถเดินทางไปที่โรงพยาบาลชุมชน หรือ รพสต.ใกล้บ้าน เพียงถือบัตรประชาชนไปแจ้งชื่อเท่านั้นซึ่งจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
นายสุวิทย์ จันทร์หวร ฝากถึงประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสังเกตุผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพราะถึงยังไงแล้วก็จะยังคงมีคนที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่ มาแล้วไม่ยอมแจ้งไม่ยอมรายงานตัว มีการหลบหนีเข้ามา แล้วมาใช้ชีวิตปกติซึ่งกลุ่มคนพวกนี้เสี่ยงมากๆ หากพบเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้าน หรือคนใกล้ชิดไม่ยอมกักตัวหรือเข้ารับการตรวจ สามารถประสานนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อที่จะดำเนินการตามกฏหมายได้เลย เพราะคนเหล่านี้มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้เหมือนกัน วันนี้ที่ห่วงที่สุดคือคนที่กำลังจะทยอยเข้ามา ไม่ว่าจะเด็กนักเรียนที่เดินทางไปทำงานกับพ่อแม่ช่วงปิดเทอม อาจจะเดินทางกลับเพื่อมาเข้าโรงเรียน ก็อาจจะมีการรับเชื้อมาเช่นเดียวกับเคสเด็กอายุ 12 ปีวันนี้ ถ้าไม่ตรวจเชิงรุกก็มีโอกาสที่จะไปแพร่เชื้อ แน่นอนว่าถ้าไปแพร่เชื้อที่โรงเรียนก็อาจจะทำให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ได้ เราจำเป็นต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน ฝากถึงประชาชนทุกท่านเนื่องจากว่าในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน สิ่งที่จะตามมาคือในเรื่องของไข้หวัดใหญ่ซึ่งหากป่วยแล้วก็จะทำให้การตรวจรักษาในช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากอาการไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 จะคล้ายกันมาก จึงอยากขอให้ชาวนครพนมรักษาสุขภาพและปฏิบัติตัวตามหลัก DMHTT ให้มากที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: