X

พบ Unseen นครพนมแห่งใหม่ ตลาดปลาแม่น้ำโขงขายราคาส่ง ริมถนนสวรรค์ชายโขง

นครพนม – พบ Unseen นครพนมแห่งใหม่ ตลาดปลาแม่น้ำโขงขายราคาส่ง ริมถนนสวรรค์ชายโขง แหล่งรวมตัวนักกีฬาทางน้ำ-บก ฉากหลังเป็นพระธาตุศรีโคดตะบองอนุสรณ์กษัตริย์ลาวผู้ยิ่งใหญ่

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณริมแม่น้ำโขงเส้นพรมแดนธรรมชาติที่สวยงามกั้นระหว่างไทยและลาว จึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมด้วยทัศนียภาพริมน้ำที่งดงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติสองฝั่งโขง ได้มีถนนเส้นใหม่ผุดขึ้นขนาบลำน้ำโขง โดยเริ่มต้นจากหน้าวัดพระอินแปลง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนมจึงถึงอำเภอธาตุพนม รวมระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร  ประชาชนได้ร่วมตั้งชื่อว่าถนนสวรรค์ชายโขง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนม นอกจากจะเป็นจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวไม่ยอมพลาดแล้ว ยังเป็นสถานที่รวบรวมการทำกิจกรรมต่างๆทั้งทางน้ำและทางบก ทุกเช้าและเย็นจะเห็นภาพผู้คนมาออกกำลังกายราวนัดกันไว้

ถ้าล่องลงใต้ไปประมาณ 4 กิโลเมตร เข้าเขตบ้านหนองจันทร์ หมู่ 13 ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม ตรงข้ามกับพระธาตุศรีโคดตะบอง เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ริมฟุตบาทจะมีชาวบ้านละแวกนั้น นำสินค้าหลากหลายมาวางจำหน่าย อาทิ หน่อไม้,มะม่วง,มะนาว,ขิง,ข้าวโพดหวาน,มะไฟหวาน,ถั่วลิสงต้ม,กาแฟ,ไส้กรอกปิ้ง,ไก่บ้าน,หรือชุดต้มยำ เช่น ข่า,ตะไคร้,ใบมะกรูด ขาดเสียมิได้ก็คือแผงลอตเตอรี่ จุดเด่นคือปลาแม่น้ำโขงสดๆ ที่จำหน่ายในราคาส่งเพราะไม่ผ่านคนกลาง จึงจะเห็นลูกค้ามาซื้อเพื่อเป็นเมนูเด็ดจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่มีการต่อรองราคาเพราะขายถูกกว่าตลาดอยู่แล้ว

นางย้อย พรรณนา อายุ 56 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เกิดและโตมากับแม่น้ำโขง พ่อก็เป็นชาวประมงท้องถิ่นเห็นการจับปลามาตั้งแต่น้อย โตขึ้นมาก็ได้สามีเป็นชาวประมงอีก จึงยึดอาชีพขายปลาแม่น้ำโขงสดๆ มาหลายสิบปี รู้เลยว่าช่วงไหนจะจับได้ปลาชนิดใด หลังมีการก่อสร้างถนนเส้นใหม่เชื่อมยาวไปถึงอำเภอธาตุพนม เห็นริมฟุตบาทเหมาะแก่การนำปลาสดมาวางขาย เมื่อได้ปลาขึ้นจากน้ำใหม่ๆ ก็ลองขายดูปรากฎว่ามีนักกีฬาผ่านมาเห็นก็ซื้อติดไม้ติดมือไป แล้วก็พูดกันปากต่อปากจึงมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างที่เห็น ภายหลังก็มีคนละแวกเดียวกันนำสินค้าชนิดอื่นมาวางเพิ่มจึงกลายเป็นตลาดนัดย่อยๆ ไปโดยปริยาย และเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ เพราะฝั่งประเทศลาวเป็นวัดศรีโคดตะบอง จึงมีผู้คนมาถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก

นางย้อยสาธยายต่อว่าช่วงนี้จะได้ปลาโจก ปลาอีตุ๋ และปลาปากเยอะที่สุด หากสีน้ำขุ่นหรือย่างเข้าฤดูฝนจะได้ปลาเผาะมากที่สุด ส่วนราคาขายจะอยู่ที่ปลาโจกกิโลกรัมละ 250 บาท มีก้างใหญ่ลูกค้านิยมนำไปต้มยำหรือต้มเค็ม ปลาอีตุ๊จะมีก้างเยอะหน่อยราคา 80-100 บาท ผู้บริโภคจึงมักนำไปก้อยหรือลาบ กระดูกที่เลาะเนื้อออกแล้วจะต้มซดน้ำล้างเผ็ด ส่วนปลาปากก็ก้างเยอะราคา 80 บาท นิยมทอดกรอบหรือต้มเค็มเพื่อเคี่ยวจนกระดูกนุ่ม “ลูกค้าส่วนมากพอรู้ว่าเป็นปลาแม่น้ำโขงแท้ๆ ไม่ค่อยจะต่อรองราคาเหมือนในตลาด แพงเท่าไหร่ก็ซื้อเพราะรู้ดีว่าปลาธรรมชาติจะมีรสชาติอร่อยกว่าปลาเลี้ยงในกระชัง” นางย้อย กล่าว

จากข้อมูลปลาอีตู๋ หรือปลากา,ปลากาดำ เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน หากินตามพื้นท้องน้ำ โดยการแทะเล็มตะไคร่หรือสาหร่าย พบในแม่น้ำขนาดใหญ่ บริโภคโดยการปรุงสด เช่น ลาบหรือน้ำยา เนื่องจากเป็นปลาขนาดใหญ่มีเนื้อมาก และยังทำเป็นปลาร้าได้อีกด้วย  มีชื่อที่เรียกตามภาษาถิ่น เช่น ปลาเพี้ยในภาษาเหนือ, ปลาอีตู๋ หรือ ปลาอีก่ำ ในภาษาอีสาน เป็นต้น

ปลาโจกก็อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียนเช่นกัน จัดเป็นปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ปลาในสกุลนี้ มีชื่อสามัญเรียกในภาษาไทยรวม ๆ กันว่าโจกหรือ ตะโก และปลาเผาะเป็นปลาน้ำจืดอยู่ในวงศ์ปลาสวาย วัยอ่อนจะกินแมลง ถ้าโตตัวเต็มวัยจะกินพืชเป็นส่วนใหญ่ อาจกินแมลงและหอยบ้าง พบมากในแม่น้ำโขง แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง มีชื่อเรียกต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น ปลาโมง, ปลาโมงยาง, ปลายาง หรือปลาอ้ายด้อง ชื่อในวงการปลาสวยงามเรียกว่าปลาบึกโขง ในภาษาเวียดนามเรียกว่าก๊าบาซา เป็นต้น

สำหรับถนนสวรรค์ชายโขง ก่อสร้างพัฒนาด้วยงบประมาณ 500 ล้านบาท ระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร บริเวณท้ายเมืองในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นอกจากพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว ชมธรรมชาติสองฝั่งโขงไทย-ลาวแล้ว ยังเป็นถนนเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ทั้งยามเช้า-เย็น ที่สำคัญบริเวณเส้นทางดังกล่าวยังเป็นจุดสำคัญที่มีไฮไลต์ ในช่วงน้ำโขงแห้ง ลดระดับ จะสามารถมองเห็นหาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ ที่มีความแปลกสวยงามตามธรรมชาติ เรียกได้ว่าอันซีนไทยแลนด์แห่งเดียวในประเทศไทย เพราะเป็นหาดทรายที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ หลังน้ำโขงลดจะมีความสวยงาม เมื่อถูกน้ำโขงซัดเม็ดทรายขึ้นมาก็กลายเป็นคลื่นทรายคล้ายเกล็ดพญานาค และมีความสวยงามระยิบระยับหลังถูกแสงแดดกระทบ กลายเป็นถนนที่ได้รับความสนใจจากประชาชน นักท่องเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อน ชื่นชมความสวยงามตามธรรมชาติสองฝั่งโขงไทย-ลาว

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2560 ภายหลังการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) ณ จังหวัดนครพนม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการและมอบนโยบายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม ภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ พิจารณาความเหมาะสมและความพร้อมของการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง

ดังนั้น พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงได้มีนโยบายและมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ และทางจักรยานพร้อมทางเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง

โดยกรมฯ ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขงพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ และทางจักรยานพร้อมทางเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง เริ่มต้นจากหน้าวัดพระอินทร์แปลง เขตเทศบาลเมืองนครพนม  ไปสิ้นสุดที่บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อำเภอเมืองฯ  ความยาวรวม 4.749 กิโลเมตร นอกจากโครงการฯ จะช่วยป้องกันการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นสาเหตุของการสูญเสียดินแดนจากภัยธรรมชาติแล้ว กรมฯ ได้พัฒนาต่อยอดการใช้ประโยชน์จากการก่อสร้างเขื่อนฯ ด้วยการทำทางเดินเท้า ทางจักรยาน ถนนคอนกรีต ไฟฟ้าส่องสว่างตลอดโครงการ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะอย่างคุ้มค่า อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนริมแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนม และกลุ่มจังหวัดใกล้เคียง

ปัจจุบันโครงการดังกล่าวเป็นที่รู้จักในชื่อของถนนสวรรค์ชายโขง ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวริมโขงแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนม มีความโดดเด่น สามารถดึงดูดประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากให้เข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ ใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ภูมิทัศน์ที่สวยงามสองฝั่งโขงไทย-ลาว อย่างใกล้ชิด ตลอดจนสามารถชื่นชม

หากโครงการดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถเชื่อมโยงกับการพัฒนาเส้นทางจักรยานของจังหวัดนครพนมที่ทอดยาวตามริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 ไปจนถึงอำเภอธาตุพนม ความยาวกว่า 64 กิโลเมตร

และวัดศรีโคดตะบูร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองท่าแขกประมาณ 6 กิโลเมตร วัดศรีโคดตะบูรแห่งนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยที่ยังใช้ชื่อว่าเมืองศรีโคดตะบูร ภายในเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุ ที่เชื่อว่าเป็นพระธาตุพี่น้องกับพระธาตุพนม เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของแขวงคำม่วน และเป็นอนุสาวรีย์พระยาศรีโคดตะบอง กษัตริย์นครศรีโคดตะบุระ เนื่องจากที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 คือ พระกะกุสันโท, พระโกนาคะมะโน, พระกัดสะโบและพระโคตะโม โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้านันทะแสนแห่งเมืองศรีโคตรบูร ต่อมาได้รับการบูรณะครั้งแรกในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในช่วงงานเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ชาวบ้านจะจัดงานวัดอย่างยิ่งใหญ่ และทำบุญเหมือนประเทศไทย นอกจากนี้ภายในวิหารมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ โดยเจ้าอนุวงศ์เป็นผู้สร้างไว้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน