X

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายรถไฟฟ้าพระราชทานแด่หลวงปู่แสง จันทวังโส

นครพนม – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายรถไฟฟ้าพระราชทานแด่หลวงปู่แสง จันทวังโส เกจิอาจารย์ดัง อายุ 101 ปี วัดโพธิ์ชัย อ.นาแก จ.นครพนม

วันที่ 6 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลตำรวจเอก ธรรมนิธิ วนิชย์ถนอม รองเลขาธิการพระราชวัง ฝ่ายที่ประทับ เชิญรถไฟฟ้าพระราชทานมาถวายแด่ พระครูอุดมรังสี (แสง จันทวังโส) อดีตเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ที่ 4 ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายทวีศักดิ์ ชัยธันยาภัทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงนครปฐม ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม พลตรีสามารถ จินตสมิทธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พลเรือตรีจรัสเกียรติ ไชยพันธ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พันเอกสันทัศน์ ชำนาญเวช ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 พันตำรวจเอก จุลฤทธิ์ จุลกะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ร่วมประกอบพิธี

โดยพระครูอุดมรังสี (แสง จันทวังโส) เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัด เปี่ยมด้วยคุณธรรมและเมตตา เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีอายุ 101 ปี 80 พรรษา มีนามเดิมว่า นายแสงวงศ์ วงษ์ตาผา เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2463 แรม 6 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 บิดาชื่อนายบุญจันทร์ มารดาชื่อนางสิงห์ เป็นชาวบ้านโพนตูม ตำบลก้านเหลือง อำเภอนาแก โดยท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ด้วยการบรรพชาเป็นสามเณรหน้าไฟเพื่ออุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณให้กับคุณตาที่ล่วงลับ เมื่ออายุ 19 ปี ที่วัดศรีสำราญจิต บ้านดอนโทน หมู่ที่ 5 ตำบลก้านเหลือง มีพระครูนาครธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดศรีสำราญจิตเป็นพระอุปัชฌาย์ และเมื่อเสร็จพิธีอุทิศส่วนกุศลและส่งดวงวิญญาณแล้วเจ้าอาวาสไม่ยอมให้ลาสิกขาและพาเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตามจังหวัดขอนแก่น จังหวัดร้อยเอ็ด จนถึงจังหวัดอุบลราชธานี และได้เข้าจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านแก้ง อำเภอเขมราฐเรื่อยมา

กระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม 2482 ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีพระครูบริหารเกษมรัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอุยเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระดมเป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยหลังอุปสมบทได้มุ่งมั่นเล่าเรียนด้วยปฏิภาณไหวพริบที่ดีเลิศจนสำเร็จการศึกษาแผนกธรรม นักธรรมชั้นตรี–โท–เอก ตามลำดับ ทั้งยังได้เล่าเรียนอักขระเลขยันต์และวิทยาคมต่าง ๆ จนเชี่ยวชาญ โดยท่านเป็นพระภิกษุผู้ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย คอยเทศนาธรรมโวหารโปรดญาติโยมและชาวบ้านในละแวกนั้น

หลายปีต่อมาจึงได้กลับบ้านเกิดมาจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม และด้วยเป็นพระที่มีความสมถะ ปฏิบัติดี มีความรู้ลึกซึ้งแตกฉาน ในช่วงที่มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ชุกชุม ได้นำสมุนไพรที่อยู่ในป่าลึกภูดงน้อย ตำบลก้านเหลืองมาช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวบ้านจนหายป่วย จึงมีชาวบ้านและลูกศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก แวะเวียนมากราบไหว้และทำบุญไม่ขาดสาย และด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและดูแลการเจ็บป่วยของชาวบ้าน จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร นามพระครูอุดมรังสี และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย รวมทั้งเป็นเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง

แม้ว่าหลวงปู่แสงจะมีอายุ 101 ปีแล้วแต่สายตาท่านยังดี หูได้ยิน 1 ข้าง ชอบการสนทนา พูดคุยสนุกสนานติดตลก ไม่ถือเนื้อถือตัว ชอบฉันเนื้อปลา นม มะละกอ กล้วยน้ำว้าและมะขามหวาน โดยท่านยังคงรับกิจนิมนต์เป็นปกติ และยังคงมีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและวัตรปฏิบัติเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน