ยครพนม – ผู้ว่านครพนมลงพื้นที่ติดตาม การจำหน่ายสับปะรดท่าอุเทน พร้อมแนะรวมกลุ่มสร้างสหกรณ์อย่างจริงจัง
วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ติดตามผลการจำหน่ายสับปะรดท่าอุเทนที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาราคาตกต่ำ และผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีการประสานห้างสรรพสินค้าเข้ารับซื้อ ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาปรากฏว่าสามารถพยุงราคาตลาดให้ดีขึ้นได้ โดยปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรยังมีการส่งให้กับห้างสรรพสินค้าเช่นดังเดิม รวมไปถึงเมื่อคัดเกรดส่งให้ห้างสรรพสินค้าแล้วก็ยังมีการส่งผลผลิตที่เหลือเข้าโรงงานแปรรูป และจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อที่หน้าสวนด้วย
โดยในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้นำตัวอย่างโลโก้ที่ได้มีการออกแบบไปให้เกษตรกรได้เลือกเพื่อใช้ในการสร้างเป็นแบรนด์ของกลุ่ม เพื่อสร้างภาพจำให้กับประชาชนทั่วไปในการเลือกซื้อสินค้า และให้คำแนะนำเกษตรกรที่เข้าร่วมประชุม เกี่ยวกับการวางแผนการทำกลุ่มสหกรณ์เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อจำหน่ายให้กับห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะเป็นทางออกให้กับเกษตรกรในระยะยาว ที่จะแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำอย่างยั่งยืน เนื่องจากการรวมกลุ่มสหกรณ์จะทำให้มีอำนาจในเรื่องของความต่อเนื่องกับอำนาจในการต่อรอง ซึ่งความต่อเนื่องก็คือออเดอร์ที่มีการสั่งจองมาจากห้างสรรพสินค้าที่สหกรณ์สามารถนำไปกระจายยังสมาชิกในกลุ่มได้ เช่น ผลผลิตรายที่ 1 หมดก็เอาของรายที่ 2 รายที่ 3 ต่อไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับการวางแผนการเพาะปลูกที่ดี ทำให้ผลผลิตที่มีระยะการเจริญเติบโตแน่นอนออกผลผลิตไล่เลี่ยกัน แต่เนื่องจากในปัจจุบันการรวมกลุ่มของเกษตรกรเป็นเพียงการรวมกลุ่มเพื่อนำไปจำหน่ายเท่านั้น จึงอยากให้ทุกคนปรับเปลี่ยนในตรงนี้ให้เป็นการรวมกลุ่มที่แท้จริงที่เริ่มตั้งแต่การวางแผนการผลิตไปจนถึงการจำหน่าย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นในอนาคตทางหน่วยงานภาครัฐก็สามารถหางบประมาณมาสนับสนุนเพิ่มเติมได้ เช่น การสร้างอาคารรวมผลผลิตเพื่อคัดแยกและกระจายสินค้า ซึ่งตรงนี้จะเป็นการต่อยอดในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้ เพราะทุกคนจะมีงานทำเพิ่มจากการผลิตสินค้าเกษตร ด้วยการมาทำงานในระบบบริหารของอาคารแห่งนี้ และถ้าสามารถทำระบบให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสามารถจดทะเบียน GMP ได้ก็จะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรมีราคาที่สูงเพิ่มม้กขึ้นไปอีก นอกจากนี้การตั้งสหกรณ์ยังมีข้อดี คือสามารถกู้เงินมาใช้ในการบริหารจัดการที่มีดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 1 บาทซึ่งในเชิงธุรกิจถือว่าต่ำมาก และถ้าทุกคนร่วมใจกันบริหารจัดการดี ๆ ปลายปีก็มีเงินปันผลคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพียงทุกคนมีความเหนียวแน่น สมัครสมานสามัคคี พร้อมใจกัน เพราะการรวมกลุ่มสหกรณ์สามารถล้มได้ง่าย ๆ เหมือนกันเพราะพ่อค้าคนกลางจะมีวิธีการเพียงแค่เข้ามาซื้อผลผลิตในราคาที่สูงกว่าสหกรณ์ ถ้าทุกคนเห็นแก่ผลประโยชน์ตรงนั้น ก็จะทำให้สหกรณ์มีผลผลิตไม่เพียงพอตามออเดอร์ก็อยู่ไม่ได้ และเมื่อถึงตรงนั้นพ่อค้าคนกลางก็จะเข้ามาซื้อกดราคาเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นเกษตรกรต้องรู้เท่าทันในตรงนี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: