นครพนม – โดนโควิดซัดตุงตาข่ายครึ่งโหล โผล่อีกคนไร้จิตสำนึกแพร่เชื้อสู่ครอบครัว ปิด 3 หมู่บ้านและ รร.ทั้งจังหวัด ลุ้นระทึกคลัสเตอร์ในสถานศึกษา
วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เวลา 12.00 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อฯ มอบหมายให้ นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ(สสจ.นครพนม) แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยพบเพิ่มอีก 6 ราย เป็นรายที่ 156-161 ของจังหวัดฯ
รอง ผวจ.นครพนม เกริ่นเบื้องต้นว่าในรายที่ 159 เป็นเพศชาย อายุ 39 ปี เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงคือจังหวัดปทุมธานี กลับมาถึงบ้านที่บ้านคำสว่างหมู่ 5 ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม ไม่มีการกักตัวอย่างจริงจัง ก็เลยทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อขึ้นมา ซึ่งในรายนี้จะมีความคล้ายคลึงกับผู้ป่วยหญิงรายที่ 154 ที่ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม ทำงานเป็นช่างเสริมสวยอยู่ กทม. คือมีเด็กนักเรียน 3 คนอยู่ในบ้านด้วย ซึ่งในการตรวจครั้งแรกผลออกมาเป็นลบแต่ยังต้องตรวจซ้ำอีก รายละเอียดทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนมนั้นจะนำเรียนให้ทราบในลำดับต่อไป
รอง ผวจ.ฯกล่าวต่อว่าซึ่งจากการเกิดกรณีทั้งสองตำบลเช่นนี้ ทางจังหวัดจึงมีความจำเป็นให้งดการเรียน on site ทุกโรงเรียนแล้ว พร้อมออกคำสั่งจังหวัดนครพนมที่ 1593/2564 เรื่องปิดสถานที่และห้ามเข้าออกสถานที่ที่กำหนดเป็นการชั่วคราว ก็คือปิดหมู่บ้านคำสว่างหมู่ที่ 5 ตำบลวังตามัว ในรายผู้ป่วยที่ 159 พักอาศัยอยู่ และปิดหมู่บ้านน้ำก่ำเหนือหมู่ที่ 10 และบ้านน้ำก่ำน้อยหมู่ที่ 17 ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม ในรายผู้ป่วยที่ 154 ทั้งสองพื้นที่นี้จะถูกปิดตั้งแต่วันที่ 25-30 มิถุนายนนี้ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่ที่กำหนดเป็นการชั่วคราว และก็ทางทีมบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปตรวจ Rapid Antigen test ของคนทั้งสองหมู่บ้าน รวมๆกันแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คน เป็นภาระของทางบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากการที่คนสองคนไม่มีวินัย และไม่มีความรับผิดชอบต่อตนเองต่อสังคมส่วนรวม ทำให้เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งอาจจะเป็นวงกว้างและเกิดคลัสเตอร์ใหม่ในสถานศึกษา
ด้าน นพ.มานพ ฉลาด ธัญญกิจ สสจ.นครพนม กล่าวว่ามีผู้ป่วยสะสม 161 ราย รักษาหายไปแล้ว 143 ราย ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ 16 ราย ในส่วนของผู้ติดเชื้อทั้งหมด 161 รายนี้ โดยมากก็จะอยู่ที่ในส่วนของอำเภอเมืองนครพนมเป็นหลักอยู่ที่ 62 ราย อำเภอธาตุพนม 30 ราย และอำเภอปลาปาก 23 ราย ฯลฯ ใน 12 อำเภอของจังหวัดนครพนม มีอำเภอนาทมที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด
สำหรับผู้ป่วยที่พบล่าสุดนี้ เป็นรายที่ 156-161 นี้ ขอเน้นไปที่รายที่ 159 เป็นเพศชายอายุ 39 ปี ทำงานเป็นพนักงานบริษัทอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ก็คือเข้ามาจากพื้นที่เสี่ยง กลับมาอยู่บ้านประมาณวันที่ 11-12 มิถุนายน หลังจากนั้นก็กักตัวเองอยู่ที่เถียงนา แต่การกักตัวไม่ใช่การกักตัวที่จริงจังอะไร ยังมีการไปมาหาสู่กับภรรยา(ผู้ป่วยรายที่ 160) และแม่ของตัวเองที่มีอายุ 69 ปี(ผู้ป่วยรายที่ 161) อีกทั้งยังมีกิจกรรมร่วมกันอยู่ทุกวันสรุปง่ายๆว่าการกักตัวที่เป็นการกักตัวที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นอกจากนี้มีการเดินทางไปที่ต่างๆด้วย เช่นเดินทางไปงานผูกแขนญาติที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีคนจากนครพนมไปร่วมด้วยจึงกลายเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอีกประมาณ 13 ราย ทั้งหมดนี้อยู่ในระหว่างของการตรวจค้นหาเชื้อ
“ผู้ป่วยรายนี้เมื่อกลับจากขอนแก่นแล้ว ได้ไปที่จังหวัดปทุมธานีอีกครั้ง เพื่อยื่นใบลาออกจากงาน แล้วก็กลับมาบ้านที่หมู่บ้านคำสว่างหมู่ 5 ต.วังตามัว อันนี้ก็เลยกลายเป็นว่าไม่มีระเบียบวินัยในการกักตัวเอง และก็ค่อนข้างที่จะหลวมไม่ค่อยสนใจต่อมาตรการของจังหวัดนครพนมแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี้อาจจะด้วยจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม ทำให้เกิดการสุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของการแพร่กระจายในชุมชนส่วนหนึ่ง กับส่วนที่การแพร่กระจายในโรงเรียนด้วย เพราะว่าในเหตุการณ์ที่ไปผูกแขนที่ขอนแก่นก็มีเด็ก 3 คนร่วมเดินทางไปด้วย ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทางจังหวัดกังวลมากที่สุดฯ” สสจ.นครพนม กล่าว
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 156 เป็นเพศหญิงอายุ 29 ปี อาชีพค้าขายอยู่ในตลาดไท และมีความเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยรายที่ 146-147 ที่เป็นสามีภรรยากันและขายของอยู่ที่ตลาดไทเช่นเดียวกัน หลังทราบว่าสองผัวเมียติดเชื้อโควิด ก็เดินทางกลับภูมิลำเนาที่อำเภอปลาปาก โดยเข้ารับการตรวจ Rapid Antigen test รพ.ปลาปาก ครั้งแรกผลเป็นลบ และไปกักตัวเองที่เถียงนา ระหว่างกักตัวมีอาการปวดกล้ามเนื้อและน้ำมูกไหล จ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.ฯประสาน รพ.ปลาปาก เข้ารับการตรวจด้วยวิธี RT PCR จึงพบว่ามีเชื้อโควิด ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
ส่วนผู้ป่วยรายที่ 157-158 เป็นสามีภรรยากันทำงานก่อสร้างย่านหลักสี่ กทม. ผู้ชายอายุ 28 ปี ฝ่ายหญิงอายุ 30 ปี โดยสามีมักร่วมสังสรรค์กับเพื่อนในไซต์งานประจำ ขณะที่ภรรยาเริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ จมูกไม่ได้กลิ่น จึงชักชวนกันกลับภูมิลำเนาที่อำเภอโพนสวรรค์ แล้วไปรายงานตัวเพื่อเข้ารับการตรวจ Rapid Antigen test รพ.โพนสวรรค์ ผลตรวจเป็นบวกทั้งคู่
นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ สสจ.นครพนม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยรายที่ 159 เดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี โดยได้กักตัวไม่มีมาตรฐานเพียงพอ และไม่ค่อยใส่ใจในมาตรการทำให้เกิดเสี่ยงสูง จึงนำเชื้อมาแพร่ระบาดให้ภรรยาและแม่ ตอนนี้ก็เหลือพ่อคนเดียวที่ ตรวจครั้งแรกผลยังเป็นลบอยู่ ก็คงต้องมีการตรวจยืนยันอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.นครพนม ได้กล่าวถึงกรณีเคสอำเภอธาตุพนมกับอำเภอเมืองฯ ว่า ทางจังหวัดฯเห็นว่าวิธีการกักตัวที่บ้านแล้วมันไม่ได้ผล แถมยังมีการแพร่กระจายเชื้อออกไปสู่คนในครอบครัว ทางจังหวัดฯจึงยกเลิกการกักตัว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนี้จะไม่มี home quarantine ขอเรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมได้รับทราบ ว่า ถ้ามีญาติพี่น้องมาจากพื้นที่เสี่ยงเข้ามาแล้ว นอกจากจะต้องตรวจ Rapid Antigen test มีผลเป็นลบแล้ว ทางจังหวัดก็ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ และครอบคลุมทั้งจังหวัดทุกอำเภอ เตียงนอนอาจจะอาจจะไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่ มีการเลี้ยงอาหารมีคนเฝ้าดูแล โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ถ้าท่านจะเลือกเป็นเสียค่าใช้จ่ายในการพักที่โรงแรมที่เข้าร่วมโครงการกับทางจังหวัด รายละเอียดสอบถามได้ที่ทางสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
“ขออนุญาตนำเรียนนะครับแนวโน้มของผู้ติดเชื้อโควิค กลับมาจังหวัดนครพนมมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ของการพบผู้ติดเชื้อในกรุงเทพฯ และพื้นที่เสี่ยงและมีอัตราที่สูงมากนะครับใช้คำว่าสูงมาก แล้วเกิดอาการขาดแคลนในโรงพยาบาลหรือสถานที่รักษา
สถานการณ์อย่างนี้มันบีบให้ทางคนของเราที่ไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงมีความจำเป็นที่จะต้องหาวิธีทางกลับบ้านมารักษาที่นี่ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้สูงว่าจะมีการทยอยกลับมาสำหรับผู้ที่ได้รับเชื้อโควิดก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ทางจังหวัดก็ได้เตรียมรับสถานการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ขอให้เข้ามาแล้วก็รายงานตัวให้ถูกต้อง ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็จะรู้ตัวตัวเองน่าจะติดเชื้อมาถึงก็จะไปที่โรงพยาบาลเลยก็เป็นเรื่องดี ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ก็จะมีบางคนเท่านั้นแหละที่สร้างปัญหาขึ้นมา ทำให้ผู้คนทั้งหมู่บ้านต้องเดือดร้อนไปด้วย วันนี้เราก็กำลังลุ้นอยู่ว่าจะเดือดร้อนไปถึงโรงเรียนด้วยหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆวันนี้ต้องงดการเรียนการสอน on site ทั้งจังหวัดถึงวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ก็จะเป็นสถานการณ์ในภาพรวมที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครพนมครับ” รอง ผวจ.นครพนม กล่าว
