นครพนม – ตำรวจภูธรนครพนม จับกุมเฮโรอีน”บิ๊กล็อต” มากที่สุดในรอบ 20 ปีของภาคอีสาน มูลค่าในตลาดมืด ตปท.สูงถึง 3 พันล้านบาท
วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เวลา 15.00 น. ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) ร่วมกับฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางยาเสพติดเฮโรอีนอัดแท่ง จำนวน 1,673 แท่ง น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม และรถยนต์เก๋งที่ใช้สำหรับลำเลียง 1 คัน
สืบเนื่องจาก ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากผู้ดูแลโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ว่า พบชายคนหนึ่งมีอาการคล้ายคนเมายาบ้ามาขอเปิดห้องพัก เกรงว่าจะเป็นพวกขบวนการค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปขอตรวจค้นพบยาบ้าจำนวนหนึ่ง โดยผู้ต้องหาสารภาพว่ามีไว้เพื่อเสพ ระหว่างนั้นมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ ประมาณว่าให้เตรียมตัวออกไปรับยาเสพติดที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ชุดสืบสวนฯจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานด้านความมั่นคง
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะเดียวกันชุดสืบสวน สภ.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ประสานมายังตำรวจสืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม ว่า ได้ร่วมกับสืบสวน บช.ภ.4 กำลังไล่ติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัยขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีดำ ทะเบียน 9 กต 5200 กรุงเทพมหานคร เข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนม พบว่ารถคันดังกล่าวเข้าไปเปิดห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งของ ต.ไผ่ล้อม คาดว่าผู้ต้องหาที่ทางสืบสวน สภ.เมืองนครพนม จับกุมตัวนั้นน่ามีความเชื่อมโยงกัน
ชุดปฏิบัติการจึงบูรณาการเข้าปิดล้อมห้องพักหมายเลข 8 ที่ชายต้องสงสัยเข้ามาเปิด และเรียกตัวออกมาขอตรวจค้นทราบว่าชื่อนายพิทักษ์ ประดาพล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ยอมรับว่าเป็นคนที่ขับรถเก๋งคันดังกล่าวจริง และเชื่อมโยงกับชายที่ถูกจับก่อนหน้านี้ การตรวจสอบภายในรถพบกระสอบสีดำหลายใบ นับได้จำนวน 14 กระสอบ ภายในบรรจุยาเสพติดประเภท 1 (เฮโรอีน) จึงทำการจับกุมตัวนายพงษ์พิทักษ์พร้อมยึดของกลางทั้งหมดมายังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จากนั้นได้เชิญ พ.ต.อ.(หญิง)จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯ ตรวจนับโดยละเอียดเป็นเฮโรอีนอัดแท่งจำนวน 1,673 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 600 กิโลกรัม
ในแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า จะมีการขนลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ระหว่าง จ.บึงกาฬ และ จ.นครพนม ชุดสืบสวน บช.ภ.4 จึงลงพื้นที่ทั้งสองจังหวัด และจัดวางกำลังไว้ตามจุดต่างๆ แม้ในเขตพื้นที่ของอำเภอต่างๆในนครพนม กระทั่งทราบจากผู้ดูแลโรงแรมพบชายมีลักษณะเมายาบ้ามาขอเปิดห้อง จึงนำมาประกอบการเชื่อมโยงกัน พบว่านายพงษ์พิทักษ์ผู้ต้องหาขนเฮโรอีนมาจากพื้นที่ ต.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ แล้วนำพักไว้ที่รีสอร์ท อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อติดต่อพรรคพวกมารับช่วงต่อไป แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน โดยนายพงษ์พิทักษ์อ้างว่าได้เงินค่าจ้างงวดแรก 5,000 บาท หากงานสำเร็จก็ไปรับก้อนโต
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า ตำรวจภูธรภาค 4 รับผิดชอบ 12 จังหวัด แนวชายแดนที่ติดอยู่กับแม่น้ำโขงมีอยู่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร นครพนมเราก็เป็นหนึ่งในห้า ที่ผ่านมานครพนมมีการลำเลียงยาเสพติดค่อนข้างมาก ซึ่งมีการกวดขันจับกุมบูรณาการกัน เช่นฝ่ายตำรวจ ทหาร และปกครอง ก็มีผลการปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็หลุดรอดไปก็เยอะโดยเฉพาะยาบ้าเป็นที่ทราบกันแล้วว่าเป็นตราบาปทิ้งไว้คือบุคคลวิกลจริตเยอะ นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นมากที่ผ่านมาคนวิกลจริตได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตร่างกาย โดยเฉพาะคนที่อยู่ใกล้ชิดล้มหายตายจากไปเยอะฯ
ในส่วนการปราบปรามที่ผ่านมา มียาบ้า ยาไอซ์เข้ามาเยอะ สังเกตว่าในปีที่ผ่านมาจับเฮโรอีนได้ประมาณ 50 กิโลกรัม ครั้งนี้เป็นการจับกุมมากถึง 600 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่าย และจากสถิติพบว่าในรอบ 20 ปีเป็นการจับกุมเฮโรอีนมากที่สุดในภาคอีสาน
สำหรับมูลค่าเฮโรอีนล็อตนี้ ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งผลการสืบสวนเชิงลึกพบว่าเตรียมลำเลียงไปยังประเทศที่สาม จะมีมูลค่าขึ้นไปอีก 10 เท่า คือ 3,000 ล้านบาททันที โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นเพียงลูกน้อง ส่วนตัวการใหญ่ทราบแล้วว่าเป็นเครือข่ายไหน โดยชุดปฏิบัติการประกบตัวไว้แล้ว หากมีการจับกุมก็นำไปสู่การยึดทรัพย์เป็นลำดับต่อไป
อนึ่ง เฮโรอีนที่จับกุมตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เป็นตราสิงห์โตคู่เหยียบลูกโลก ต้นฉบับของกลุ่มว้าแดง มีฐานผลิตยาเสพติดแหล่งใหญ่ที่สุดอยู่ที่เมืองยอน จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยมีขุนส่าอดีตราชายาเสพติดโลกเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ โดยผลิตเฮโรอีนใช้สัญลักษณ์สิงห์โตคู่เหยียบลูกโลก ภายหลังขุนส่าหมดบารมีก็มีทายาทเป็นผู้สืบทอด และยังคงใช้ตราสิงห์โตคู่เหยียบลูกโลก เพราะในวงการค้ายาเสพติดทั่วโลกคุ้นเคยกับตราสัญลักษณ์นี้มานาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: