นครพนม-ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธนครพนม เดินหน้าขับเคลื่อนแก้ปัญหาสุขภาพพระสงฆ์ในยุคโควิด
วันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่ห้องประชุมชั้น 5 สำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม คณะกรรมการศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธของวัดมหาธาตุที่เป็นมหานิกาย และวัดศรีเทพประดิษฐารามที่เป็นฝ่ายธรรมยุต ร่วมกับโรงพยาบาลนครพนมและภาคีเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์จังหวัดนครพนม ได้มีการประชุมหารือเพื่อวางแนวทางขับเคลื่อนงานและต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาวะของพระสงฆ์ สร้างให้วัดจังหวัดนครพนมมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ ภายใต้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ สร้างการเข้าถึงสิทธิ รู้เท่าทันและการแก้ไขปัญหาสุขภาพในพระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในยุคโควิด
พระครูกิตติสุตานุยุต เจ้าคณะอำเภอเมืองนครพนม เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ประธานศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพวิถีพุทธ วัดมหาธาตุ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันปัญหาสุขภาพในพระสงฆ์ทั่วประเทศมีมากกว่าแสนรูป ซึ่งในจังหวัดนครพนมก็มีพระสงฆ์ที่ป่วยเช่นเดียวกัน โดยข้อมูลจากโรงพยาบาลนครพนมพบว่าในปี 2563 มีพระสงฆ์ที่ป่วยอาพาธเป็นผู้ป่วยใน 254 รูปและเป็นผู้ป่วยนอกอีก 2,316 รูป ที่สำคัญคือในแต่ละปีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งโรคที่ 5 อันดับแรกที่พระสงฆ์ป่วยอาพาธ คือโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจและหลอดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ และโรคไตวายเรื้อรัง ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคส่วนใหญ่มาจากการบริโภคไม่ถูกหลักโภชนาการ เพราะพระสงฆ์ไม่สามารถเลือกฉันอาหารได้ ต้องฉันอาหารตามที่ฆราวาสตักบาตรหรือนำมาถวาย ประกอบกับสถานภาพของพระสงฆ์ไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย ดังนั้นในวันนี้จึงได้มีการเชิญคณะกรรมการศูนย์ร่วมประชุมหารือในการขับเคลื่อนโครงการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคพระสงฆ์ สามเณรและแม่ชี ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่คณะทำงานได้มีการขับเคลื่อนงานเพื่อสร้างองค์ความรู้ให้กับพระสงฆ์ได้เข้าใจถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การดูแลตรวจสุขภาพ และการส่งเสริมให้พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี ทำกิจกรรมทางกายภาพที่เหมาะสมไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย รวมถึงการรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าใจและถวายภัตตาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพื่อลดภาวะเสี่ยงในการเกิดโรค โดยโครงการจะเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมแบบองค์รวมของชุมชน วัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมมือกันดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ สามเณร และแม่ชี และในปีนี้ก็มีโครงการให้ความรู้เฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่นา 2019 (COVID – 19) ในกลุ่มพระสงฆ์และแกนนำกลุ่มสามวัยเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ซึ่งโครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งในหมู่พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่จะทำให้ทุกคนได้เข้าใจ รู้เท่าทันสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สามารถป้องกันตนเองและบุคคลในครอบครัวให้ห่างไกลจากไวรัสโควิดได้ นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของวัดเพื่อที่จะจัดทำเป็น Temple Isolation หากสถานที่ของหน่วยงานราชการมีเตียงไม่เพียงพอในอนาคตอีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: