นครพนม – “กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้” นครพนมล็อกดาวน์ 2 หมู่บ้าน คลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุก
จากกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน คลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุกขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (นครพนม-ลาว) จำนวน 18 ราย โดยผู้ป่วยรายแรกของเคสนี้เป็นชิปปิ้ง ทำงานบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ไม่มีประวัติออกนอกพื้นที่จังหวัดนครพนม แต่ได้สัมผัสกับคนขับรถบรรทุกที่นำสินค้าจากต้นทาง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงจำนวนหลายสิบคัน เริ่มมีอาการช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบว่าเป็นบวก ทีมแพทย์จึงตรวจค้นหาเชิงรุกกับสิงห์รถบรรทุกทุกคัน และพบผู้ติดเชื้อตามที่กล่าวข้างต้น และป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีก 2 รายรวมเป็น 20 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 24 ราย โดยทั้งหมดได้ส่งไปกักตัวเฝ้าดูอาการโดยเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ทางจังหวัดนครพนมได้มอบอำนาจให้ขนส่งจังหวัดนครพนม สั่งระงับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเฉพาะบริษัทแห่งนี้ที่พบมีผู้ป่วยติดเชื้อเป็นเวลา 14 วัน พร้อมเตรียมเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อฯพิจารณาขออนุญาตปิดบ้านสำราญหมู่ 2 และบ้านห้อมหมู่ 11 ต.อาจสามารถ(บางส่วน) ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด มีคำสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 2002/ 2564 ปิดสถานที่และห้ามเข้าออกสถานที่ที่กำหนดเป็นการชั่วคราว และปิดหมู่บ้านสำราญเหนือหมู่ 2 และบ้านห้อมหมู่ 11 ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม ตั้งแต่วันที่ 11-17 สิงหาคม 2564 เพื่อทีมสาธารณสุขจังหวัดนครพนมทำการสอบสวนโรคชิงรุก เพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดนครพนม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยใกล้กับคลัสเตอร์ดังกล่าว ต่างตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีการแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กว่าจะประกาศก็ไม่รู้ว่าตนเองไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยงที่ใดบ้าง เพราะละแวกที่มีคำสั่งปิด ก็ใกล้เคียงกับร้านโชวห่วยใหญ่ ร้านสะดวกซื้อ ออฟฟิส ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ ตามที่กล่าวมาผู้ป่วยโควิดได้ไปใช้บริการแล้วกี่ครั้ง
