นครพนม – พบแล็บเฮ้าส์เอกชน ต้นตอคลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุก ร่วมผู้ประกอบการออกผลตรวจเป็นเท็จ นครพนมป่วยใหม่ 94 เสียชีวิตสะสม 14 ราย
กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน คลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุกขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (นครพนม-ลาว) จำนวน 21ราย ส่วนใหญ่คนขับรถและเด็กท้ายจะเป็นบุคคลนอกพื้นที่ นำสินค้ามาจากต้นทางซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง โดยผู้ป่วยรายแรกเริ่มมีอาการประมาณวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบว่าติดเชื้อโควิด ทีมแพทย์สาธารณสุขจึงตรวจค้นหาเชิงรุกกับกลุ่มรถบรรทุกทุกคัน โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 24 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 13 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจากแหล่งข่าวว่า มีแล็บเฮ้าส์เอกชนรายหนึ่งมาเปิดบริการตรวจคัดกรองโรคโควิด สำหรับคนขับรถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ โดยเช่าบ้านหลังหนึ่งแถวบ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม คิดค่าบริการครั้งละ 500 บาท ซึ่งผลตรวจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 วันจึงจะออกว่าคนขับมีเชื้อโควิดหรือไม่ ถ้าไม่มีเชื้อก็จะออกหนังสือรับรองผลตรวจ เพื่อนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) จากนั้นก็จะได้รับอนุญาตให้ขับรถข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ปรากฏว่ามีบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ไม่อยากรอผลตรวจข้ามวันข้ามคืน จึงใช้วิธีลัดด้วยการจ่ายเงินเพิ่มให้เจ้าหน้าที่แล็บเฮ้าส์แห่งนี้อีก 500 บาท เป็นการซื้อใบรับรองโดยไม่ต้องผ่านการตรวจค้นหาเชื้อตามหลักมาตรฐานการป้องกันโรคระบาด ตรงจุดนี้เองจึงมีคนขับรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศบางคนมีเชื้อโควิด แต่ไม่ได้ตรวจอย่างถูกต้องนำเชื้อมาแพร่สู่เพื่อนร่วมงาน จนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 21 ราย และเข้าข่ายอีก 20 กว่าราย
หลังจากนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบจากการสอบสวนโรคของผู้ติดเชื้อ จึงมีคำสั่งให้ปิดแล็บเฮ้าส์เอกชนรายนี้ ส่วนจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ รอมติจากคณะกรรมการโรคติดต่อฯอีกครั้ง
ในขณะที่ชาวบ้านที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กับแล็บเฮ้าส์แห่งนี้ ก็เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตอนมาเปิดบริการใหม่ๆก็รู้สึกกังวล เพราะผู้ที่มาใช้บริการนั้นมีเชื้อโควิดมาหรือเปล่า เห็นคนเข้าออกในแต่ละวันเยอะมาก มาทราบตอนหลังว่ามีส่วนที่ทำให้เกิดคลัสเตอร์รถบรรทุกก็ตกใจ เพราะไม่รู้มาก่อนว่ามีการแพร่ระบาดในหมู่บ้านของตน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับคนขับรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งขนทุเรียนมาจากอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ข้ามไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีผลตรวจ RT-PCR จากพื้นที่ต้นทางมาแสดงต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งผลตรวจนี้จะเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,500 บาท และโดยหลักมาตรฐานสากลการข้ามผ่านแดนในช่วงโรคโควิดระบาด นิยมใช้ผลการตรวจเช่นนี้ประกอบในการขออนุญาตข้ามพรมแดน เพราะมีความน่าเชื่อถือกว่าแล็บเอกชน ผลเสียตรงที่ต้องรอผลในวันรุ่งขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการไม่อยากรอจึงจ่ายเงินซื้อผลตรวจ ก็คอยดูกันต่อไปว่าจะมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเคสนี้อย่างไร
ด้านทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม รายงานผู้ป่วยโควิดมีรายใหม่ 94 ราย รวมสะสม 3,637 ราย ไม่มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ เสียชีวิตสะสม 14 ราย
