นครพนม – ครอบครัวหนุ่มไรเดอร์สังเวยน้ำโขงพร้อมลูกสาว ยันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อดีตเมียเผยเป็นคนสู้ชีวิต น้ำตาท่วมวัดเผาร่างสองพ่อลูก
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีนายระฆังเงิน อินทรา หรือนัท อายุ 30 ปี อาชีพเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร มีบ้านเช่าอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จมน้ำโขงเสียชีวิตพร้อมลูกสาว คือ ด.ญ.กุลนารถ อินทรา หรือ น้องโม อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเทศบาล 4 จุดเหตุเกิดอยู่บริเวณโป๊ะแพ ริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เยื้องจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ถนนสุนทรวิจิตร เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นมีกระแสดราม่าว่าคิดสั้นฆ่าตัวตาย จากภาระหนี้สินพิษโควิด ด้วยการกระโดดน้ำโขงพร้อมลูกสาว อายุ 7 ขวบ ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้มีการสอบสวนหาสาเหตุแยกเป็น 2 ประเด็น คือ คิดสั้นฆ่าตัวตาย กับปมอุบัติเหตุ เนื่องจากมีชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ พบเห็นว่าน้องหมา 2 ตัว ที่ผู้ตายและลูกสาว พามาเดินวิ่งออกกำลังกาย กระโดดลงไปในน้ำโขง ทำให้ลูกสาวกระโดดน้ำลงไปช่วยน้องหมาด้วยความรักผูกพันโดยไม่รู้ว่าน้องหมาช่วยเหลือตัวเองได้ จังหวะนั้นพ่อพบเห็นจึงกระโดดลงไปช่วยลูกสาว แต่กระแสน้ำโขงไหลเชี่ยว ประกอบกับชุดวอร์มที่สวมใส่ออกกำลังกายอุ้มน้ำ และลูกสาวกอดตัวพ่อไว้แน่น ทั้งสองจึงหมดแรงจมน้ำทั้งคู่ แต่น้องหมาทั้งสองรอดชีวิต ลอยคอขึ้นฝั่ง และยังมานอนเฝ้าศพหลังกู้ร่างขึ้นมาจากน้ำในสภาพสุดเวทนา
ขณะเดียวกันวันนี้เวลา 15.00 น. ทางญาติ ได้นำศพผู้เสียชีวิตมาประกอบการฌาปนกิจศพที่วัดมหาธาตุในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ตามประเพณี โดยมีญาติรวมถึงเพื่อนร่วมงานมาร่วมไว้อาลัย ทั้งนี้ทางสมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม รวมถึงเพื่อนๆได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต
ทางด้าน นางสมคิด อินทรา อายุ 55 ปี แม่ผู้ตาย ได้ออกมายืนยันว่า การเสียชีวิตมั่นใจว่าลูกชายไม่คิดสั้นจนเป็นสาเหตุถึงขั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งตอนแรกตนมีความคิดว่าลูกชายอาจเครียด แต่พอมาตรวจสอบข้อมูลกับคนที่พบเห็นเหตุการณ์ ประกอบกับสภาพความเป็นอยู่ พฤติกรรมส่วนตัว กล่าวว่านิสัยลูกชายเป็นคนสู้ชีวิต ยอมรับมีปัญหาหนี้สิน แม้ทำงานมีรายได้ลดลง แต่ไม่เคยบ่นท้อแท้ อยู่กินแต่งบงานกับภรรยามากว่า 10 ปี ถึงจะเลิกรากันแล้ว ลูกชายยังขอรับลูกสาวทั้งสองคนมาเลี้ยงดู คือคนโตที่เสียชีวิตอายุ 7 ขวบ อีกคนอายุ 4 ขวบ โดยตั้งใจหาเงินดูแลลูกสาว ทางพ่อแม่ก็ให้กำลังใจไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัว
ก่อนเกิดเหตุปกติจะพาลูกสาวไปวิ่งออกกำลังกายทุกวันพร้อมกับน้องหมาสองตัว จากการสอบถามข้อมูลคนเห็นเหตุการณ์ เชื่อว่าไม่คิดสั้นแน่นอน มาจากสาเหตุน้องหมากระโดดลงไปว่ายน้ำ ทำให้ลูกสาว 7 ขวบ กระโดดลงไปช่วยน้องหมา เพราะไม่รู้ว่าน้องหมาช่วยตัวเองได้ โดยคนเป็นพ่อไม่ทันระวัง จึงกระโดดลงไปช่วยลูกสาว แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยว จึงหมดแรงจมน้ำทั้งคู่ มั่นใจไม่คิดสั้นแน่นอน
ด้าน นางสาวลลิตา วงศ์ษา อายุ 30 ปี อดีตภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า แต่งงานอยู่กินกันมากับผู้ตายกว่า 10 ปี รู้นิสัยส่วนตัวอดีตสามี ว่าเป็นคนขยันทำมาหากิน แต่ช่วงหลังเลิกรากัน เพราะเรื่องภายในครอบครัว จึงแยกกันอยู่ ประมาณเกือบปี และฝ่ายชายขอลูกสาว 2 คนไปดูแลเพราะรักมาก ถึงแม้จะแยกกันอยู่ ตนยังคุยธุระติดต่อเรื่องลูกเป็นปกติ แม้กระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณชั่วโมงยังพูดคุยทางโทรศัพท์ติดต่อกันเรื่องลูก ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเศร้าขึ้น และตนเชื่อมั่นว่าเป็นอุบัติเหตุ มั่นใจอดีตสามีไม่คิดสั้น และตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะปัญหาหนี้สิน และจากการสอบถามพ่อแม่ญาติพี่ น้อง ยังไม่ถึงทางตันขนาดนั้น และยังมีทางออกแก้ไขได้ ถึงแม้จะเครียดบ้าง แต่เชื่ออดีตสามีรักครอบครัวพ่อแม่ และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อลูกสาว
