X

คลัสเตอร์คนงานเจอแล้ว 39 ราย ลุ้นกลุ่มเสี่ยงกว่าร้อยปลอดภัย แล็บเฮ้าส์ไม่สลดเตรียมฟ้องกลับ

นครพนม – คลัสเตอร์คนงานเจอแล้ว 39 ราย ลุ้นกลุ่มเสี่ยงกว่าร้อยปลอดภัย แล็บเฮ้าส์ไม่สลดเตรียมฟ้องกลับ สอบสวนต้นตอโรคนำเข้าหรือติดในพื้นที่

กรณีคลัสเตอร์คนงานขนถ่ายสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนครพนม ติดเชื้อโควิดแล้ว 39 ราย ในจำนวนดังกล่าวนอกจากจะมีเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งหัวหน้างานแล้ว คนงานยังนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนในครอบครัวอีกด้วย และผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำรวมแล้วนับร้อยคน โดยกลุ่มคนงานเหล่านี้มีภูมิลำเนากระจายอยู่ 3 อำเภอ ได้แก่ 1.อ.เมืองนครพนม 2.ท่าอุเทน และ 3.ปลาปาก จึงเป็นสาเหตุให้ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงนามในคำสั่งปิดบางส่วนของบ้านนามะเขือหมู่ 1 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก,บ้านเนินบ่อทองหมู่ 16 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน,บ้านโพนค้อหมู่ 10 ต.คำเตย อ.เมืองนครพนม เป็นเวลา 7 วัน เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ลงพื้นที่ทำการตรวจเชิงรุก พร้อมเฝ้าระวังดูอาการประชาชนกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด

ล่าสุดวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ก่อนหน้านี้เกิดคลัสเตอร์รถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ ติดเชื้อโควิดมาจากพื้นที่สีแดงเข้มแล้วแพร่เชื้อในหมู่คนขับรถและคนรอบข้างกว่า 20 ราย ทั้งนี้เกิดจากความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการบางราย ร่วมมือกับแล็บเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ออกใบรับรองผลตรวจโควิดแก่คนขับรถบรรทุกบริษัทหนึ่ง โดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการทางการแพทย์ และในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีเคสคนขับรถบรรทุกเกิดขึ้นอีก 2 เคส จึงนำมาสู่การล็อกดาวน์บ้านเวินพระบาทหมู่ 1 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ขณะเดียวกันทางจังหวัดเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีแล็บเฮ้าส์ดังกล่าว ซึ่งทางด้านแล็บเฮ้าส์ก็ไม่ยอมพร้อมจะแจ้งความกลับเช่นเดียวกัน

ซึ่งหลังจากเกิดคลัสเตอร์ในกลุ่มรถบรรทุกระหว่างประเทศ ลามถึงคนงานที่ขนถ่ายสินค้า ทางจังหวัดนครพนมประชุมด่วนเกี่ยวกับการตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ประกอบการจำนวน 20 แห่ง ที่ให้บริการลานสะสมตู้บรรจุสินค้า(ตู้คอนเทนเนอร์) หรือลานจอดรถหัวลาก ตู้คอนเทนเนอร์ที่เดินทางไปมาระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา  โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) เสนอมาตรการสาธารณสุขในสถานประกอบการฯ ส่วนสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นนครพนม เสนอการจัดทำข้อบัญญัติท้องถิ่น,กฎหมายที่เกี่ยวข้องฯ และข้อปฏิบัติในการประกอบกิจการ

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทผู้ประกอบการบางแห่งมีสำนักงานอยู่ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-บ้านแพง) ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม มีการจอดรถหัวลากตู้คอนเทรนเนอร์รุกขึ้นไปบนเขตทางหลวง จึงมักเกิดอุบัติเหตุเจ็บตายอยู่เสมอ ทั้งที่มีกฎหมายคมนาคมด้านการขนส่งและจราจรหลายฉบับที่สามารถนำมาบังคับใช้ได้ แต่บางหน่วยงานไม่ดำเนินการใดๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีคลัสเตอร์คนงานขนถ่ายสินค้าของศูนย์กระจายสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษติดเชื้อโควิด ทีมสอบสวนโรค สสจ.นครพนม ยังหาข้อสรุปถึงต้นตอของโรคไม่ได้ เพราะต้องลงลึกสอบสวนอย่างละเอียด เนื่องจากตัวผู้ป่วยเองก็ยังให้รายละเอียดไม่ถูกว่าพวกตนติดเชื้อมาจากไหน จึงมีการวิเคราะห์อย่างไม่เป็นทางการ 2 ประเด็น คือ 1.ติดเชื้อกันเองในพื้นที่ 2.เป็นเชื้อนำเข้า ซึ่งประเด็นหลังมีผู้คลุกคลีอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษให้ข้อมูลน่าสนใจ ว่า ถ้าหากเป็นเชื้อนำเข้าน่าจะมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะกว่าสินค้าจะมาถึงไทย ต้องถ่ายขนสินค้ารวมๆแล้ว 4 ครั้ง คือ 1.ขนใส่ตู้คอนเทนเนอร์จากต้นทาง 2.เมื่อรถวิ่งมาถึงประเทศเวียดนามก็ขนถ่ายใส่รถบรรทุกเวียดนาม 3.รถบรรทุกเวียดนามถึงประเทศลาวก็จะถ่ายใส่รถบรรทุกสัญชาติลาว 4.รถบรรทุกประเทศลาวนำสินค้าข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 มายังศูนย์กระจายสินค้าเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม โดยทั้งหมดจากต้นทางถึงปลายทางจะใช้แรงงานคนขนทั้งสิ้น โดย 1 ตู้คอนเทนเนอร์สามารถขนถ่ายใส่รถบรรทุก 10 ล้อได้ถึง 2-3 คัน ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอคำแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

นอกจากนี้ในคลัสเตอร์ดังกล่าว หลังมีคำสั่งล็อกดาวน์หมู่บ้าน 3 แห่งแล้ว มีการตรวจคัดกรองเชิงรุกก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ป่วยที่บ้านนามะเขือหมู่ 1 จำนวน 4 ราย ส่วนบ้านเนินบ่อทองหมู่ 16 ผู้มีความเสี่ยงสูงใกล้ชิดคนป่วย 2 รายและผู้ที่มีความเสี่ยงอีก 10 ราย ผลตรวจเบื้องต้นเป็นลบทั้ง 11 ราย ส่วนบ้านโพนค้อหมู่ 10 ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจคัดกรองในวันนี้ หลังจากนั้นนับไปประมาณ 5-7 วัน จะต้องตรวจซ้ำครั้งที่สองอีกที ด้านทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สสจ.นครพนม รายงานว่าพบผู้ป่วยใหม่ 60 ราย รวมติดเชื้อสะสม 4,356 ราย เสียชีวิตสะสม 19 ราย

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน