นครพนม – บิ๊กอู๋ เดินหน้าจับมือภาคเอกชน เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มอีกแห่ง รองรับกว่า 250 เตียง พร้อมสนับสนุนมอบอุปกรณ์ที่จำเป็น มั่นใจรับมือไหว ขณะยอดผู้ป่วยในจังหวัดยังคงเพิ่มรายวัน
วันที่ 3 กันยายน 2564 ณ โรงยิม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงานวุฒิสภา ในฐานะ สมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เป็นประธานเปิดและส่งมอบโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยนครพนม แห่งที่ 2 ให้กับจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดระบาดในพื้นที่ จ.นครพนม หลังมีการแพร่ระบาดต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนมอบอุปกรณ์ที่จำเป็นภายในโรงพยาบาลสนาม ดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์สมโภชน์ ธีระตระกูลสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม รองศาสตราจารย์ ดร.ทัศนา ประสานตรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานราชการและภาคเอกชน เป็นผู้แทนประชาชนชาวนครพนมรับมอบ
ข่าวน่าสนใจ:
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ของจังหวัดนครพนม มาอย่างต่อเนื่อง พบว่า ปัจจุบันมีแรงงานได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่มีสถานพยาบาลเพียง 30 แห่ง แยกเป็น โรงพยาบาลของรัฐ 12 แห่ง โรงพยาบาลสนาม 6 แห่ง และศูนย์พักคอย 12 แห่ง ซึ่งมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยทั้งหมด 1,279 เตียง ใช้ไปแล้ว 862 เตียง คิดเป็นเกือบ 70% ของจำนวนเตียงที่มี ดังนั้นในฐานะสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และฐานะชาวนครพนม จึงได้ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด มหาวิทยาลัยนครพนม ส่วนราชการ ภาคธุรกิจ และประชาชนชาวนครพนม ร่วมกันสร้างโรงพยาบาลสนาม ณ มหาวิทยาลัยนครพนมขึ้น เป็นแห่งแรก ซึ่งได้ทำการเปิดใช้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา จำนวน 300 เตียง แยกเป็นสำหรับผู้ป่วยสีเขียว 240 เตียง และผู้ป่วย สีเหลือง 60 เตียง โดยมูลนิธิ พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว และพันธมิตร ร่วมบริจาคทั้งสิ้น 2,913,200 บาท นับเป็นการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน โดยใช้เวลาสร้างเพียง 9 วัน ก่อนได้ส่งมอบให้พี่น้องชาวนครพนม อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงทรงตัว ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมการหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นในอนาคต มูลนิธิ พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว และพันธมิตร จึงได้ร่วมกับ ประชาชนจังหวัดนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) หอการค้าไทย-จีน บิ๊กซี บีเจซี คาราบาวแดง วิริยะประกันภัย สำนักงานฉลากกินแบ่งรัฐบาล บริษัท ปตท. จำกัด บริษัท คิง แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด คุณอิงอร แสงสิงแก้ว และครอบครัวแสงสิงแก้ว หอการค้านครพนม สมาคมพ่อค้าจังหวัดนครพนม สมาคมไทย-เวียดนาม และ หจก.สง่านครพนม ได้ร่วมกันสร้างโรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยนครพนม แห่งที่ 2 เพิ่มอีก 280 เตียง โดยแบ่งเป็นการสร้างเพิ่มที่มหาวิทยาลัยนครพนม 230 เตียง และสร้างให้กับตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม 50 เตียง ซึ่งในครั้งนี้ มูลนิธิ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้วและพันธมิตร ได้บริจาคสมทบอีก 1,563,266 บาท และส่งมอบให้ จังหวัดนครพนม ทั้งนี้ ยอดการบริจาครวมขณะนี้ มูลนิธิพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว และพันธมิตร ได้สร้างโรงพยาบาลสนามสำหรับพี่น้องชาวนครพนม รวมทั้งสิ้น 2 แห่ง (รวมจำนวน 580 เตียง) และบริจาคเงินและสิ่งของสมทบในการสร้าง ทั้งสิ้น 4,476,466 บาท มั่นใจเพียงพอกับการรับบริการของผู้ป่วย และมั่นใจว่าถึงแม้ภาครัฐจะประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณแต่ยังมีภาคเอกชนที่มีความเข้มแข็ง ในการร่วมแรงร่วมใจ สร้างโรงพยาบาลสนามให้เพียงพอ
ในขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในจังหวัดนครพนมประจำวันที่ 3 กันยายน 2564 พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 24 ราย โดยหลักๆยังคงเป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง พบผู้ติดเชื้อในจังหวัดเพียง 2 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,605 ราย กลับบ้านเพิ่ม 58 ราย รวมรักษาหายสะสม 4,118 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 23 ราย ทางด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้มีการวางมาตรการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าเข้า-ออก หรือผ่านพื้นที่จังหวัดนครพนม กำหนดให้พนักงานขับรถขนส่งสินค้า คนประจำรถสินค้า หรือผู้ติดตาม จะต้องแสดงผลการตรวจ COVID-19 และต้องมีผลเป็นลบไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดนครพนม กรณีผลการตรวจเกิน 48 ชั่วโมงแล้ว จะต้องทำการตรวจใหม่อีกครั้ง โดยจังหวัดนครพนมได้ตั้งจุดตรวจคัดกรอง COVID-19 จำนวน 4 จุดหลัก ได้แก่ จุดตรวจบ้านผึ้ง ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมืองนครพนม จุดตรวจบ้านต้องใหม่ ตำบลฝั่งแดง อำเภอธาตุพนม จุดตรวจบ้านโนนสังข์ ตำบลหนองบ่อ อำเภอนาแก และจุดตรวจน้ำตกตาดโพธิ์ ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง ทั้งนี้ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: