นครพนม – สภา ม.นครพนม เคาะชื่อ รก.อธก.คนใหม่ ไล่ กก.บางคนออกนอกห้อง เหตุตั้งมาไม่ถูกต้อง สั่งเร่งจ่ายเงินเดือน ว.การบิน ตัวการใหญ่พล่านซุกนักการเมือง
วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 09.30 น. ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม เปิดประชุมสภาฯครั้งแรก หลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ พร้อมกรรมการสภาฯผู้ทรงคุณวุฒิ รวม 13 ราย เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีกรรมการสภาฯที่ถูกคัดเลือกมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหลายกลุ่มเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยก่อนที่จะเปิดประชุมมีกรรมการสภาฯ แสดงความคิดเห็นในกรณีที่คณะบุคคลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภาฯ แต่งตั้งกรรมการฯบางคนเข้ามานั้นอาจจะไม่ถูกต้องตามข้อบังคับ ซึ่งจะมีการหารือในข้อกฎหมายว่าคณะบุคคลมีอำนาจหรือไม่ เพราะแต่งตั้งหลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกสภาฯ จึงมีมติให้กรรมการฯดังกล่าวออกจากห้องประชุมไป การประชุมจึงดำเนินต่อโดยมีเรื่องเสนอเพื่อพิจารณาเลือกกรรมการสภา ม.นครพนมผู้ทรงคุณวุฒิในจำนวน 12 คน ขึ้นเป็นอุปนายกสภาฯ 1 คนซึ่งก็ได้นายบวรศิลป์ เชาว์ชื่น ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
จากนั้นได้พิจารณาแต่งตั้งรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม(รก.อธก.มนพ.) แทน นายทัศนา ประสานตรี ที่จะหมดวาระในวันที่ 6 ตุลาคม นี้ ในที่ประชุมมีฉันทามติเลือก นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา กรรมการฯผู้ทรงคุณวุฒิ ขึ้นดำรงตำแหน่ง รก.อธก.ฯ
วาระสำคัญที่เกือบจะถูกผู้บริหารคนหนึ่งสั่งให้ถอดออกจากประชุม คือ การพิจารณาหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาภายในวิทยาลัยการบินนานาชาติ (ว.การบินฯ) ซึ่งถูกปล่อยลอยแพโดยไม่จ่ายเงินเดือนถึงปัจจุบันย่างเข้าเดือนที่ 9 และอดีตผู้บริหารก็เพิกเฉยไม่ยอมเหลียวแล พร้อมพูดเยาะเย้ยว่าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา กรรมการสภาฯผู้มีเจตนาดีต่อสถาบันการศึกษาแห่งนี้จึงได้อภิปราย ให้ทางสภามหาวิทยาลัยฯหาช่องทางช่วยเหลือ จึงมีข้อสรุปว่าให้ รก.อธก.คนใหม่ หลังเข้าบริหารแล้วต้องตรวจสอบบัญชีการเงิน ม.นครพนมทุกๆบัญชี และบรรจุเป็นวาระพิเศษเพื่อช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะถึงวันเปิดประชุมสภาฯครั้งแรก กลุ่มอำนาจเก่าแยกกันเดินสายไปพบกรรมการฯผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ลงทุนเข้าพบนักการเมืองระดับประเทศ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเพื่อขอให้สั่งกรรมการบางคนผลักดันคนของตนเข้าเป็น รก.อธก. ซึ่งตัวการใหญ่นี้อาจจะถูกตั้งสอบสวนทางวินัยเพิ่มอีกเรื่องหนึ่งคือขาดราชการเกิน 15 วัน
