นครพนม – วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เวลา 18.30 น. ณ ลานสามมิติริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้องค์พญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม “ดีเจบุ๊คโกะ” นายธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ เจ้าหญิงแห่งวงการวิทยุ,นักแสดง,นักจัดรายการวิทยุ,ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรรายการโทรทัศน์ นำทีมงานหลายชีวิตแต่งชุดไทยเพื่อรำแก้บนต่อองค์พญาศรีสัตตนาคราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดนครพนม โดยมี อาจารย์คฑา ชินบัญชร หมอดูชื่อดัง พร้อมคณะร่วมพิธีในครั้งนี้
ก่อนถึงพิธีบวงสรวงดีเจบุ๊คโก๊ะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาที่จังหวัดนครพนม และมีโอกาสกราบสักการะองค์พญาศรีสัตตนาคราชขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งกำลังติดต่องานชิ้นใหญ่อยู่แต่ไม่ได้ยอมบอกเป็นงานอะไร หลังเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ปรากฏว่างานที่ติดต่ออยู่ตอบรับกลับมาทันที จึงเชื่อว่าเกิดจากแรงอธิษฐานต่อพญาศรีสัตตนาคราช จากนั้นให้ทีมงานประสานการจัดเครื่องสักการะพร้อมวันและเวลาเพื่อรำแก้บน โดยส่วนตัวมีความเชื่อเรื่องพญานาคมานานแล้ว จึงฝากถึงแฟนคลับว่าจังหวัดนครพนม นอกจากจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจคือ พระธาตุพนมและพญาศรีสัตตนาคราช แล้ว ผู้คนก็มีความน่ารักอัธยาศัยดี อาหารอร่อย อากาศริมฝั่งโขงก็บริสุทธิ์ จึงเป็นจังหวัดที่ไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
ดีเจบุ๊คโกะเป็นพิธีกรรายการแฉข่าวเช้า on TV ทางช่อง GMM 25 และ EFM แฉข่าวเช้า ทางคลื่นวิทยุอีเอฟเอ็ม 94 และเป็นบุคคลที่คว้าตำแหน่งรางวัลนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ ประจำปี 2564 จังหวัดเชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2528 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี กทม. บิดาเป็นชาวเชียงใหม่อาชีพรับราชการทหาร ส่วนมารดาเป็นชาวนครราชสีมา (โคราช) อาชีพรับราชการ มีพี่น้อง 3 คน โดยดีเจบุ๊คโกะเป็นพี่คนโต น้องสาวคนกลางซึ่งเป็นนักแสดงเช่นกันคือเบลเยียม ภาวินี และโบรันเป็นน้องคนเล็ก ดีเจบุ๊คโกะเข้าเรียนเตรียมอนุบาลที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นกลับมาเรียนใน กทม. โรงเรียนสารวิทยา และด้วยคาแรคเตอร์พูดคุยเก่ง ทำให้โดดเด่นจนอาจารย์ส่งเข้าประกวดทอล์คโชว์ของโรงเรียนจนได้รางวัลระดับประเทศพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และจบระดับอุดมศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ต่อมานายธนัชพันธ์ค้นพบตัวเองว่ามีความใฝ่ฝันอยากทำงานในวงการบันเทิง เพราะชื่นชอบและติดตามบุคคลชื่อดังในวงการจึงอยากทำงานสื่อตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง โดยเริ่มทำงานเป็นตัวประกอบ ได้แสดงเป็นตัวประกอบภาพยนตร์เรื่องบิวตี้ฟูล บ๊อกเซอร์ จากนั้นได้เข้าร่วมรายการคุณลิขิต ซีซั่นที่ 4 กับทางช่อง 7 เพื่อค้นหาดาวตลก ซึ่งนายธนัชพันธ์ได้รางวัลอันดับที่ 2 จากการแข่งขันที่มีผู้เข้าร่วมประกวดถึง 600 คน กระทั่งชั้นปีที่ 4 ได้เข้าฝึกงานที่จีทีเอช และเมื่อสำเร็จการศึกษาได้มาเป็นนักข่าวบันเทิงที่ไทยคม เข้าทำงานช่องทรูอินไซด์รายการเอนเตอร์เทนเมาท์วีกลี หลังรายการยกเลิกไป เขาเริ่มเป็นที่จดจำมากขึ้น และได้รับการติดต่อจากทางเอไทม์ให้ทำเดโม่ จนในที่สุดได้มาเป็นดีเจที่อีเอฟเอ็ม จึงกลายเป็นที่มาของคำว่า “ดีเจบุ๊คโกะ”
ข่าวน่าสนใจ:
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
จากนั้นมีโอกาสรับงานด้านการแสดงมากขึ้น อาทิ ละครโทรทัศน์เรื่องระบำดวงดาว,แฝดนะยะ,รักเกิดในตลาดสด และผลงานภาพยนตร์อย่างเช่น เขาชนไก่,ปล้นนะยะ 2, หอแต๋วแตก แหกนะคะ เป็นต้น
นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว ดีเจบุ๊คโกะยังทำธุรกิจส่วนตัวอีกมากมาย อาทิ การเปิดร้านอาหารในชื่อ “พระอาทิตย์ซีฟู๊ด” หรือผลิตภัณฑ์ลูกชิ้นปลาน้ำแตก และยังเป็นที่ปรึกษาด้านศัลยกรรมอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: