แรงศรัทธากุศลร่วมนำส่งของผู้กราบไหว้องค์พญานาค “มูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช” มอบเงินช่วยเหลือประชาชนถูกปิดหมู่บ้าน จากสถานการณ์โควิดระบาด 5 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องรับรองผู้ว่าราชราชการจังหวัดนครพนม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครพนม โดยนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 40 ในฐานะประธานมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารมูลนิธิฯ ประกอบด้วย นายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล,นายโชคดี มังคละคีรี,นายวัฒนศักดิ์ เจียวิริยบุญญา,นายสมพงษ์ ชัยยิ้ม,นายพิเชฏฐ์ หลั่งทรัพย์,นายธนคม รัตนเมธาวงศ์,นางวิไลลักษณ์ โทพล และ น.ส.มัลลิกา มณีประกรณ์ นำเงินสดจำนวน 50,000 บาท(ห้าหมื่นบาท) มอบให้กับนายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อนำไปช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีปิดหมู่บ้าน หลังตรวจพบมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
เนื่องจากปัจจุบันโควิดระลอกใหม่ ได้แพร่ระบาดในพื้นที่หลายจังหวัด และในห้วงเวลาที่ผ่านมาจังหวัดนครพนม มีผู้ติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนใหญ่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง กอปรมีบางคนย่อหย่อนกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นต้องปิดหมู่บ้านห้ามบุคคลเข้า-ออกพื้นที่ เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกตั้งแต่ 7-14 วัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้เป็นหนึ่งในหลายๆกิจกรรมของมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช
ทั้งนี้ องค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คชื่อดังของจังหวัดนครพนม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยปี พ.ศ.2556 นายอุกูล ตังคณานุกูลชัย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 38 นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ตลอดจนผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัดฯ และคนอื่นๆได้จัดเวทีเสวนาพูดคุยร่วมกับผู้นำชุมชนและท้องถิ่น ว่า ต้องการจะสร้างประติมากรรมที่บริเวณลานพนมนาคา และประติมากรรมนั้นจะต้องเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น ทุกคนจึงมีความเห็นตรงกันว่าควรสร้างเป็นพญานาค เพราะพญานาคมีลักษณะที่งดงามและอยู่ในแม่น้ำโขง โยจะทำให้เป็นจุดขายเมืองนครพนม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นายอนุกูลจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐ เอกชน รูปแบบประชารัฐ เพื่อประชุมเสวนาระดมความคิดอย่างกว้างขวาง และเสนอโครงการผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ กระทั่งได้งบประมาณจังหวัดปี พ.ศ.2556 จำนวน 9,870,000 บาท (เก้าล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน)
ต่อมา ปี พ.ศ.2557 นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 39 ได้สืบสานงานต่อก่อสร้างประติมากรรมพญานาคเพื่อเป็นแลนด์มาร์ค(Landmark) ของจังหวัดนครพนม และโครงการยกระดับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก(สกลนคร นครพนม มุกดาหาร) เพื่อความเป็นเลิศในอนุภาคอินโดนจีนรองรับ AEC และปี พ.ศ.2558 พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210(ในขณะนั้น) ได้นำกำลังทหาร นักพัฒนา อาสาสมัครผู้มีหัวใจบำรุงพระพุทธศาสนาจากค่ายพระยอดเมืองขวางมาช่วยเป็นกำลังเสริมปรับปรุงบริเวณดังกล่าวให้สวยงามสะดุดตา
ปี พ.ศ.2559 นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 40 ได้เสนอโครงการผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม 2 โครงการ และขณะในช่วงการรอคอยรูปหล่อองค์พญานาคนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายพเชษฎฐ์ หลั่งทรัพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิค(ในขณะนั้น) นายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล เลขานุการหอการค้าจังหวัดนครพนม(ในขณะนั้น) ได้วางแผนการรองรับ ขับเคลื่อนบริหารจัดการองค์ประติมากรรมพญานาค โดยมิต้องรอการของบประมาณจากภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว จึงได้คิดจัดหากองทุนสนับสนุนการสมโภชองค์พญานาค โดยได้จัดสร้างเหรียญพญานาค/รูปหล่อ รุ่นมหาสิทธิโชค เพื่อให้ประชาชนได้เช่าบูชาเหรียญที่ระลึกอันเป็นปฐมฤกษ์ ซึ่งปัจจุบันเหรียญรุ่นนี้มีราคาพุ่งถึงหลักหมื่น
โดยองค์พญานาคสร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์ กว้าง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร นำหนักรวม 9 ตัน (9,000 กิโลกรัม) ถูกนำขึ้นประดิษฐานบนแท่นรวมความสูง 16.29 เมตร ถือเป็นพญานาคองค์เดียวที่ไม่เหมือนแห่งใดในโลก เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุพนมมาสวมคล้องไว้ แสดงถึงองค์พญานาคที่มีความผูกพัน เชื่อมโยงพิทักษ์ ปกป้องรักษาองค์พระธาตุพนมตามตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมานานชั่วอสงไขย
วันที่ 9 กันยายน 2559 องค์พญาศรีสัตตนาคราชก็อัญเชิญขึ้นสู่แท่น โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือเฉียงตะวันออก ที่ 6 องศา 20 พิลิปดา สายตาพญานาคจะมองตัวเมืองนครพนม แสดงถึงการปกปักรักษา คุ้มครองเมืองนครพนม อันจะนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองกว้างไกลยิ่งใหญ่ไพศาล และแสดงถึงการว่ายไหลทวนกระแสน้ำโขงขึ้นไปทางเหนือ เปรียบประดุจการมีพละกำลังกายที่แข็งแรง การหันหน้าเฉียงไปทางทิศตะวันออกแสดงถึงหนทางที่ออกไปสู่แสงสว่างทุกช่องทางการเศรษฐกิจค้าขายลงทุนคล่องตัวปราศจากปัญหา อุปสรรคทั้งปวง
จากนั้นมาก็มีประชาชนหลั่งไหลจากทั่วสารทิศ กราบไหว้ขอพรองค์พญาศรีสัตตนาคราชบันดาลโชคลาภเป็นจำนวนมาก พร้อมร่วมทำบุญลงในตู้บริจาค จากเดิมตั้งเป็นกองทุนพญาศรีสัตตนาคราช นำเงินจากแรงศรัทธาของประชาชนสร้างห้องพิเศษสำหรับคนไข้ใน รพ.นครพนม หลายห้องด้วยกัน และช่วงวิกฤตโควิดผู้ป่วยก็ได้ใช้ห้องพิเศษนี้รักษาตัวจนหาย ภายหลังตั้งเป็นมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช นำเงินจากการทำบุญของประชาชนร่วมสมทบช่วยเหลือทั้งภาครัฐ เอกชนหลายต่อหลายครั้ง เช่น ล่าสุดที่มอบเงินช่วยเหลือประชาชนที่ถูกปิดหมู่บ้านจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: