“ยังคงมาตรฐานเดิมเป๊ะ” เจ๊บิวรับเงินจ่ายเต็มจำนวน 2 หมื่นกว่าบาท ลูกค้าเผยไม่ได้โวยเรื่องค่าอาหาร แค่สงสัยปริมาณเท่านั้น เจ๊โอ๋รับคำขอโทษน้องชายเมินน้องสะใภ้ ตร.เตรียมเฉ่งฝ่าฝืน พรบ.โรคติดต่อฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกลายเป็นข่าวติดชาร์ตมานานหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมเป็นต้นมา กรณีนายเกียรติภูมิ ศิริวรเดชกุล อายุ 54 ปี มัคคุเทศก์ และ “เจ๊บิว” นางกัญญาพัชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เจ้าของร้านอาหารบุญญรินทร์ กู๊ด วิว ตั้งอยู่ริมถนนบายพาส บ้านน้อยหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งล่าสุดเจ๊บิวควงสามีนายวีระชัย (สงวนนามสกุล) หรือท่อม อายุ 47 ปี เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เพื่อรับมอบเงินจำนวนค่าอาหารที่เหลือจำนวน 21,501 บาท โดยมีนางปาริชาติ ดวงสงค์ อายุ 53 ปี เพื่อนนักเรียนร่วมรุ่นเป็นผู้มอบเงินจำนวนดังกล่าว โดยมีนายชาญชัย คงทัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายไชยวุฒิ วัชเรนทร์สุนทร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เป็นคนกลางในการรับมอบ ซึ่งฝั่งของนายเกียรติภูมินอกจากจะมีนางปาริชาติแล้วก็ยังมีเจ๊โอ๋ลูกพี่ลูกน้องทางนายวีระชัยรวมอยู่ด้วย
หลังจากนั้นทั้งหมดก็แยกย้ายกันไป โดยนายวีระชัยหรือท่อมได้เดินไปยกมือไหว้ขอโทษเจ๊โอ๋ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ว่า “พี่ผมขอโทษนะครับ” ซึ่งเจ๊โอ๋ก็ยกมือรับไหว้โดยไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมเหลียวมองน้องสะใภ้แม้แต่หางตา
จากนั้นนายเกียรติภูมิได้โพสต์ข้อความ ว่า “บทสรุปดราม่าเรื่องค่าอาหารสามหมื่น…ทางร้านฯ ได้ยอมรับ ขอโทษและจะแก้ไขต่อไป… ทางกลุ่มเพื่อน ๆ พวกเราก็ตกลงกันว่าจ่ายเงินสด 21,501บาท ส่วนที่เหลือเต็มจำนวน เพื่อไม่เป็นที่ครหาว่า “หัวหมอกินแล้วขอลดราคาหรือขอกินฟรี” ครับ… ทั้งนี้ได้มอบเงินสดกันต่อหน้าท่านรองผู้ว่าฯ, ศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ของพาณิชย์จังหวัด…(ดังภาพที่แนบ) ส่วนเรื่องผิดถูกทางกฎหมายก็ว่ากันไปตามถูกผิดต่อไปครับ…
… ก่อนที่ผมจะตัดสินใจโพสต์ครั้งแรกแล้วทำให้เป็นกรณีดังกล่าว…ผมได้คิดดีแล้วและทราบดีว่าจะเจอกับกระแสด้านลบกับผมอย่างไรบ้าง…แต่ผมคิดว่าผลที่ได้ในด้านบวกที่จะเกิดกับผู้บริโภคในอนาคตมีมากกว่า…หากการโพสต์ครั้งนั้นทำให้ท่านไหนรู้สึกไม่สบายใจผมต้องขอโทษมา ณ ที่นี้… และขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและเข้าใจในความตั้งใจจริงของผมครับ”
ในเวลาต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนครพนม ได้มาขอข้อมูลจากศูนย์ดำรงธรรมฯ เพื่อนำไปประกอบสำนวนเพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้องไปรับทราบข้อกล่าวหาฐานฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนครพนมลงวันที่ 11 มกราคม 2565 กรณีห้ามจำหน่ายและห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ทั้งนี้มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้าน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อืดอาดไปหรือเปล่า ที่ผ่านมาชาวบ้านนั่งก๊งเหล้าก็โดนรวบไปปรับแล้ว นี่มีทั้งภาพและเสียงป่านนี้ยังไม่ไปถึงไหนเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: