“สายเขียวสะอื้น” นรข.ยึดกัญชาแห้ง 200 กก. ตามแผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ชื่นชมทางการลาวสกัดจับยาบ้าเกือบ 100 ล้านเม็ด คาดเป้าหมายปลายทางฝั่งไทย
สืบเนื่อง จังหวัดนครพนมได้จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภายใต้”ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง” เพื่อเป็นกรอบแนวทางให้กับหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร รวมถึงภาคีองค์กรเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ บูรณาการร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม อันเป็นการสร้างความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนม สนองตอบต่อนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งก็ได้มีการดำเนินตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวครอบคลุมทั้งมิติด้านป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และการบริหารจัดการ ฯลฯ
โดยบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.อ.ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 (รอง ผบ.ร.8) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กกล.ฯ) พ.อ.จักริน จิตคติ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนครพนม (รอง ผอ.กรอ.รมน.ฯ) /รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (รอง ผบ.มทบ.210) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวผลการดำเนินงานในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่ง พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข. ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่านับตั้งแต่ส่งเจ้าหน้าที่ชุดมวลชนสัมพันธ์เข้าไปทำเข้าใจและชี้ถึงพิษภัยของยาเสพติดให้กับประชาชนหลายพื้นที่ จึงมีผู้หันมาร่วมมือชี้เบาะแสกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับทางกระทรวงยุติธรรมตั้งรางวัลสินบนนำจับแก่ผู้ชี้เบาะแส จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ จึงขอร่วมเป็นสายข่าวคอยสอดส่องความผิดปกติตามลำแม่น้ำโขง และแจ้งข่าวการเคลื่อนไหวของขบวนการค้าสิ่งผิดกฎหมายข้ามชาติอยู่เนืองๆ
ผบ.นรข.กล่าวต่อว่าล่าสุดประชาชนในพื้นที่แจ้งเตือนมายัง บก.นรข. ว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร จึงได้สั่งการให้ น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตนครพนม) จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการพิเศษสถานีเรือนครพนม(สน.เรือฯ) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการนี้อย่างใกล้ชิด
กระทั่งวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 18.00 น. ขณะชุดปฏิบัติการลาดตระเวนตามจุดเฝ้าระวังอยู่นั้น ชาวบ้านในพื้นที่บ้านเชียงยืนหมู่ 4 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน แจ้งว่ามีเรือกีบท้ายติดเครื่องยนต์(เรือหาปลาท้องถิ่น) แล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจำนวน 2 ลำ มีพิรุธน่าสงสัยเพราะเมื่อเรือทั้ง 2 ลำ แล่นเข้ามาถึงเขตฝั่งไทย ได้แยกไปมุ่งหน้าขึ้นทางทิศเหนือ 1 ลำ และลงทางทิศใต้อีก 1 ลำ คาดว่าอาจจะมีการลำเลียงสิ่งของผิดกฎหมายมาส่งในพื้นที่ดังกล่าว
หน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม บก.นรข. จึงเข้าพิสูจน์ตรงเป้าหมายของผู้ชี้เบาะแส ทราบว่าเรือหาปลาทั้งสองลำได้แล่นกลับไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว พบสิ่งของต้องสงสัยวางกองไว้ที่บริเวณบันไดเขื่อมริมแม่น้ำโขงบ้านเชียงยืนหมู่ 4 ต.เวินพระบาท จึงซุ่มเฝ้าตามยุทธวิธีจนถึงเวลา 20.30 น. ก็ไม่พบผู้ที่จะลงมาแบกขนสิ่งของดังกล่าว จึงเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ที่ถูกโยนกองไว้ริมท่ากระจัดกระจายทั่วบริเวณ ลักษณะคล้ายบรรจุภัณฑ์ของยาเสพติด
โดยจุดแรกพบจำนวน 2 กระสอบ ขณะที่จุดสองพบอีก 3 กระสอบ จึงนำไปตรวจสอบยัง บก.นรข. ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่งห่อด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง จำนวน 200 แท่ง/กิโลกรัม เมื่อเปิดออกดูพบกัญชาถูกบีบอัดจนแน่นที่มีใบและก้านเป็นส่วนใหญ่ คาดหากลอดเล็ดไปได้ขบวนการค้ายาเสพติดสามารถนำเข้าถึงพื้นที่ชั้นใน ก็จะกระจายสู่ตลาดนักพี้สายเขียว โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวและสถานบันเทิง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่าช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา สปป.ลาว มิตรประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทย สามารถจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่จำนวน 36 ล้านเม็ด ซึ่งเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ก็จับกุมยาบ้าได้ถึง 55 ล้านเม็ด นอกจากนี้ยังมียาไอซ์ 590 กิโลกรัม เฮโรอินอีกจำนวนหนึ่ง ถือว่าเป็นการจับกุมยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว จากการคาดการณ์เบื้องต้นยาบ้าล็อตนี้น่าจะผลิตในรัฐฉานของเมียนมา ก่อนจะลักลอบขนส่งเข้าประเทศลาว ซึ่งในระยะหลังถูกใช้เป็นทางผ่านเพื่อลักลอบเข้าประเทศไทย เนื่องจากนโยบายชายแดนของไทย มีการเฝ้าระวังเข้มงวด โดยนายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนระดับภาคของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่ายาบ้าล็อตมหาศาลนี้มีปลายทางมาจำหน่ายในฝั่งไทย ส่วนไอซ์น่าจะมีเป้าหมายลักลอบไปขายที่ออสเตรเลียซึ่งเป็นตลาดมูลค่าสูงกว่า
โดยในระยะหลังเจ้าหน้าที่พบว่ามียาเสพติดทะลักเข้าไทยและหลายประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้ราคายาเสพติดถูกลง โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรัฐประหารในเมียนมา ทำให้มีคนจำนวนหนึ่งหันเข้าสู่วงจรยาเสพติดเพื่อสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากธุรกิจนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: