พุทธศาสนิกชนแสดงพลังแห่งศรัทธา ร่วมเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม เนื่องในวันมาฆบูชา บูชาพระอุรังคธาตุ เข้มคัดกรองโควิดก่อนกราบนมัสการ กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ฟื้นตัว
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม บรรยากาศการทำบุญเนื่องในวันมาฆบูชา ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมแสดงพลังศรัทธาของชาวพุทธมามกะ ต่างเดินทางมากราบไหว้ทำบุญ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานี้ เพื่อกราบไหว้ขอพร สักการบูชาองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี เพื่อเป็นความสิริมงคลแก่ครอบครัว ถือเป็นงานบุญประเพณียิ่งใหญ่สำคัญของภาคอีสาน ที่จัดขึ้นทุกปี คืองานนมัสการองค์พระธาตุพนมประจำปี 2565 หรือในฮีต 12 ตอง 14 คืองานบุญเดือน 3 โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 9-17 กุมภาพันธ์ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดแต่ยังถือว่า มีประชาชน นักท่องเที่ยว ต่างมาทำบุญกันอย่างคึกคัก โดยทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง วางมาตรการเข้มในการดูแลป้องกัน ตรวจคัดกรองทุกราย สำหรับประชาชน นักท่องเที่ยว ที่จะเข้าไปกราบไหว้ภายในบริเวณวัด จะต้องมีผลยืนยันฉีดวัคซีน 2 เข็ม มีผลตรวจ ATK รวมถึงต้องสวมหน้ากากอนามัย ทุกราย นอกจากนี้ยังได้จำกัดจำนวนคน ที่เข้าไปกราบไหว้ ครั้งละประมาณไม่เกิน 500 คนต่อรอบๆละ 30 นาที ตามมาตรการนิวนอมอล โดยมีประชาชน นักท่องเที่ยว พลังแห่งศรัทธา ยังคงเดินทางเข้ามาทำบุญเวียนเทียน ตลอดทั้งวันไม่ขาดสาย ส่วนในช่วงเย็นได้จัดให้มีการเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชาตามประเพณี โดยปีนี้เน้นแบบเรียบง่าย งดจัดมหรสพ
ขณะเดียวกันได้ส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ถูกจับจองเต็ม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรขึ้นชื่อในช่วงนี้คือมันแกวหวาน หรือมันเพา ที่ปลูกริมฝั่งแม่น้ำโขง ในห้วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ถือว่าทำเงินสะพัดบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ต่างไปรับซื้อจากเกษตรกร มาวางขาย กิโลกรัมละประมาณ 10-12 บาท สร้างรายได้ วันละกว่าหมื่นบาท โดยแต่ละปีมันแกวหวาน ในช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม สามารถสร้างเงินหมุนเวียนสะพัดได้ปีละเกือบ 10 ล้านบาท
