5 ปีความดีไม่ปรากฏ ชาวบ้านลุกฮือไล่ ผญบ.นาราชควายน้อย นครพนม ขาดความน่าเชื่อถือไม่โปร่งใส ใบ้กินแจงไม่ได้เงินวัดเงินโยมล่องหน
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.30 น. บริเวณสนามหญ้าหน้าเสาธงศาลากลางจังหวัดนครพนม มีชาวบ้านนาราชควายน้อย หมู่ 5 ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม โดยมี นางสายสมร พรหมประกาย อายุ 48 ปี นางลักษิกา จ่าบาล อายุ 48 ปี และ นางวัลภา ราชบัณฑิต อายุ 67 ปี เป็นแกนนำ โดยถือป้ายขับไล่ผู้นำชุมชน คือ นายขัน พลชารี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 โดยได้ยื่นหนังสือถอดถอนออกจากตำแหน่ง พร้อมรายชื่อผู้ขับไล่จำนวน 345 รายผ่านนายไชยวุฒิ วัชเรนทร์สุนทร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม ซึ่งขณะที่แกนนำรอยื่นหนังสืออยู่นั้น ก็มีเสียงจากชาวบ้านประมาณ 100 คน ตะโกนให้ผู้ใหญ่บ้านออกไปๆตลอดเวลา
นางวัลภาแกนนำซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลนาราชควาย (ส.อบต.ฯ) เปิดเผยว่าตนในฐานะตัวแทนของชาวบ้าน ได้รับทราบปัญหาจากการปฏิบัติงานของนายขัน พลชารี ผู้ใหญ่บ้านคนนี้มาโดยตลอด กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน และใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์และทรัพย์สินเงินทองมาเป็นของตัวเอง โดยร่วมสมคบคิดกับภรรยาและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนสร้างความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำให้ชาวบ้านขาดความไว้วางใจจนนำไปสู่ปัญหาต่างๆ
ข่าวน่าสนใจ:
- หมอสงค์ กระโดดลงสนามเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม ย้ำชัดไม่ได้สู้กับพรรคใด
- ผู้ว่าฯ นครพนม รุกลงพื้นที่สั่งการเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะเทศบาลเมืองนครพนม
- นครพนม บรรยากาศคึกคักต้อนศักราชใหม่ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 พร้อมลุ้นของขวัญปีใหม่
- นครพนม ผู้ว่าฯนำจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรต้อนรับ พุทธศักราช 2568
ขณะที่นางลักษิกากล่าวว่ามีการสร้างหอกลองวัดศิรยานุราชอุทิศ โยผู้ใหญ่บ้านคนที่เกษียณไป ได้ขึ้นโครงสร้างไว้เรียบร้อย พอถึงยุคคนปัจจุบัน เข้ามาต่อเติมด้วยการมุงกระเบื้องและติดลาย เริ่มเบิกเงินออกจากบัญชีวัดช่วงปลายปี 2563 ก้อนแรก 5 หมื่นบาท และทยอยเบิกเพิ่มอีก 4 ครั้งรวมเป็น 5 ครั้ง คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 298,000 บาท เมื่อชาวบ้านขอให้ทางผู้ใหญ่บ้านทำรายการเบิกจ่ายมาแสดงเพราะเห็นว่าราคาดังกล่าวแพงกว่าความเป็นจริง ผ้ใหญ่บ้านก็เพิกเฉยตลอดมา
นอกจากนี้ยังมีการใช้ตำแหน่งหน้าที่เก็บเงินค่าน้ำประปา โดยไม่ชี้แจงรายรับรายจ่ายประจำเดือน หรือตัดไม้ยูคาลิปตัสในที่สาธารณะในหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านร่วมกันปลูกไว้ ตักปลาในบ่อน้ำสาธารณะไปขายนำเงินมาเป็นของส่วนตัว อีกทั้งใช้ตำแหน่งหน้าที่เก็บค่าเช่า เต็นท์ โต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์เครื่องครัว ทั้งที่อุปกรณ์เหล่านี้เป็นส่วนกลางไว้ให้ชาวบ้านยืมใช้ในการจัดงาน แต่ผู้ใหญ่บ้านคิดเป็นเงินค่าเช่าโดยไม่มีการชี้แจงใดๆ
“ผู้ใหญ่บ้านก้าวก่ายเงินทำบุญและกิจกรรมในวัด เช่น เงินทำบุญกองข้าว เงินทำบุญประจำปี เงินถวายโลงเย็น เงินถวายการก่อสร้างหอกลอง เงินบริจาคสร้างเมรุ และก่อสร้างโรงพักญาติ เงินค่าบำรุงหีบศพ อยากรู้ว่าเงินเหล่านั้นไปอยู่ไหน และยังสร้างบ้านตัวเองทับที่สาธารณะซึ่งแต่เดิมเป็นบ่อน้ำกลางบ้านที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายในอดีตยืนยันชัดเจน แต่ตรงนั้นก่อนที่ผู้ใหญ่บ้านจะซื้อที่ดินใกล้เคียงกัน ก็มีการระบุไว้ใน น.ส.3 ก. ว่าเป็นพื้นที่ว่างซึ่งยังไม่ทันได้ขึ้นเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ แต่ผู้ใหญ่บ้านได้ขอออกโฉนดโดยรังวัดทับบ่อน้ำดังกล่าวแล้วสร้างบ้านครอบเสียเลย ตลอด 5 ปีมานี่ผู้ใหญ่บ้านไม่เคยสร้างคุณงามความดีเป็นที่ประจักษ์ทั้งสิ้น ชาวบ้านจึงเหลือจะทนในพฤติกรรมจึงรวมตัวมาขับไล่” นางวัลภากล่าว
นางสายสมรแกนนำอีกผู้หนึ่งกล่าว่า ในหมู่บ้านนาราชควายน้อย มีประชากรมีสิทธิ์เลือกตั้ง 670 คน มีลงชื่อถอดถอนนายขัน พลชารี ออกจากตำแหน่งจำนวน 345 คน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าไม่มีใครต้องการผู้ใหญ่บ้านคนนี้แล้ว พร้อมประกาศไม่ร่วมกิจกรรมใดๆกับผู้ใหญ่บ้านทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้าที่ชาวบ้านจะรวมตัวมาขับไล่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อำเภอเมืองนครพนมและจังหวัด ได้ให้นายขัน พลชารี ตอบข้อสงสัยของชาวบ้านตามที่ถูกกล่าวหา ปรากฏว่าผู้ใหญ่บ้านชี้แจงไม่ได้สักเรื่องเดียว ชาวบ้านจึงเชื่อว่านายขัน พลชารี คงปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านต่อไปไม่ได้แล้วจึงร่วมกันลงชื่อถอดถอนออกจากตำแหน่งดังกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: