แฉเบื้องลึกผลประโยชน์ “ถ้ำนาคี” อุทยานแห่งชาติภูลังกา กลุ่มคนรักบ้านแพงขวางทางกิน ยัดเยียดเป็น”ไกด์เถื่อน” กดรีสตาร์ทดันคนตัวเองเสียบ
สืบเนื่องจากนายสุรชาติ ดีโคตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านนาโพธิ์ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่ออกมาเปิดเผยคำสั่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกากรณีให้ไกด์อาสาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจำนวน 300 คนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ถ้ำนาคีฝั่ง อ.บ้านแพง หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอ้างว่าไกด์อาสาทั้ง 300 คนเป็นไกด์เถื่อน ขัดกับระเบียบข้อบังคับของกรมอุทยาน จึงมีการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่โดยให้ผู้ประสงค์เป็นไกด์ไปยื่นเอกสารหลักฐานทต่ออุทยานฯภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อที่อุทยานแห่งชาติจะได้เสนอต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืชต่อไป เพื่อที่จะได้รับใบอนุญาตก่อนวันที่ 10 มีนาคม 2565
ซึ่งคำสั่งดังกล่าวนายสุรชาติในฐานะผู้นำชุมชน ได้หารือกับผู้ใหญ่หลายคนว่า จะยื่นหนังสือผ่านนายอำเภอบ้านแพงถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อพิจารณาหาทางออกที่ไม่ทำให้ชาวบ้านที่มีภูมิลำเนาอยู่เชิงภูลังกาได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกหลานหลายคนเป็นเยาวชนมีรายได้จากการเป็นไกด์อาสา สามารถนำมาแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสอดคล้องกับแนวทางให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด แต่หลักเกณฑ์ใหม่นี้กำหนดคุณภาพไกด์ไว้ว่าต้องมีอายุเกิน 20 ปีขึ้นไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ได้รับทราบจากแหล่งข่าวว่า กรณีที่ชาวบ้านเข้าใจว่ามีเอกชนท้องถิ่นเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการจัดระเบียบไกด์นั้น อาจแฝงด้วยผลประโยชน์ในการจัดตั้งบริษัทเพื่อให้ไกด์เข้าไปอยู่โดยจ่ายเป็นค่าหัวคิว ซึ่งเอกชนรายดังกล่าวถือว่าเป็นกลุ่มคนหนุ่มรุ่นใหม่ และต้องการให้ถ้ำนาคีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปราศจากผลประโยชน์เคลือบแฝง โดยเริ่มเห็นความไม่ชอบมาพากลในกลุ่มไกด์อาสาบางคน เข้าไปเสนอผลประโยชน์ต่อคนภายในอุทยาน ในการจัดคิวนำนักท่องเที่ยวขึ้นชมถ้ำนาคี ดังนั้นคนในอุทยานบางคนจึงใช้วิธีลัดคิว จัดให้ไกด์ของตนได้อยู่อันดับต้นๆ ส่วนไกด์ที่ไม่จ่ายค่าจัดคิวก็จะตกไปอยู่อันดับท้ายๆ
กลุ่มเอกชนคนรักบ้านแพง ทราบปัญหาดังกล่าวจึงเข้าไปจัดคิว ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันถ้ำนาคีเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเพื่อไม่ให้เกิดการแซงคิวกัน แม้จะมีคนในอุทยานคัดค้านไม่เห็นด้วยในการจัดคิวอย่างยุติธรรมนี้ เพราะผลประโยชน์ที่เคยได้จะลดน้อยถอยลง จึงควักไพ่ใบสุดท้ายกดรีสตาร์ทใหม่ อ้างราชกิจจานุเบกษา ว่าด้วยการอนุญาตให้กระทำการในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ และสวนรุกขชาติ เล่มที่ 138 ตอนพิเศษ 301 ง 9 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการจัดคนของตนเข้ามาเป็นไกด์อย่างเต็มตัว ส่วนคนที่ไม่ใช่ก็ดองเอกสารไว้ก่อน ดังนั้นกรณีเช่นนี้จะต้องมีคำชี้แจงจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ ส่วนคนที่อยู่ปัจจุบันนี้ขาดความน่าเชื่อถือไปแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: