วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 วิทยาลัยการบินนานาชาติ (ว.การบินฯ) มหาวิทยาลัยนครพนม (มนพ.) ได้มีข้อความขอบคุณผู้ที่ร่วมแก้ไขปัญหา ว.การบิน ตั้งแต่เกิดวิกฤตปัญหาคาราคาซังค้างท่อมานานนับปี ซึ่งเป็นผลพวงของการมีอดีตผู้บริหารไม่มีวิสัยทัศน์ ขาดธรรมาภิบาล จนประสบผลสำเร็จในทิศทางที่ดี และพร้อมจะเปิดการเรียนการสอนด้านการบินได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง
“#จบแล้วครับข้อเรียกร้องแก้ไข 3 ข้อ 1.ไม่ยุบ 2.เงินเดือน 3.นักศึกษาการบินที่ค้างท่อ ต้องจบการศึกษา คือ 1. เริ่มได้เงินค้างจ่าย 3 เดือนแล้วที่อยู่ในงบ 25 ล้านบาท 2. หลังวันที่4 มีนาคม ท่าน อ.มนตรี คณบดีฯคนใหม่ จะอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินได้ 3. ครูนภาพล ครูฝึกการบิน กำลังปรับแผนเบิกจ่าย เพื่อจ้างพนักงานและเตรียมพร้อมAudit 4. ถ้าอนุมัติต้นเดือน มีนาคมนี้ หากชำระค่าประกันภัย ค่าอะไหล่ได้ ตามกำหนด ครูการบินสามารถนำเครื่องบินขึ้นฝึกร่วมกับครูการบินด้วยกันได้ โดยจะมีตัวแทนครูการบินจาก กรมการบินพลเรือน มาทำการฝึกทบทวนให้ ก็สามารถให้นักศึกษาการบินที่ค้างท่อ เริ่มฝึกบิน เพื่อเก็บชั่วโมงบินจนจบ
5. ถ้าปฏิบัติตามแผนได้เดือนมีนาคม คณะอื่นๆ จะช่วยสมทบเงินให้ อีกจำนวนหนึ่งและสิ้นเดือนจะสามารถจ่ายเงินเดือนตามวงรอบปกติ
จึงประชาสัมพันธ์ Fc และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทราบภารกิจ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เราจบแล้ว ต่อไปคือการดำเนินการ ภายใต้การบริหารของมหาวิทยาลัยฯ
ภารกิจนี้จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ถือโอกาส ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแก้ไขปัญหา เป็นที่ประจักษ์ว่างานทุกอย่างจะสำเร็จได้ถ้าเราสามัคคี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 1.นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย 2.ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนมเขต 2 พรรคเพื่อไทย @มนพร เจริญศรี 3.นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ @ณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ 4.ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม 5.ยุติธรรมจังหวัดนครพนม 6.นายธงชัย ชำนาญไพร @ธงชัย ชำนาญไพร 7.อธิการบดี ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา 8.@บวรศิลป์ เชาวน์ชื่น 9.@ศาสตราจารย์อภิรัฐ ศิริธราธิวัตร 10.@Phensiri Dumrongpakapakorn และผู้สื่อข่าวนครสารออนไลน์ @พงศ์ สุคนธ์”
ทั้งหลายทั้งปวงกรณีเกิดปัญหาในสถาบันอุดมศึกษาแห่งนี้ เริ่มมีรอยปริเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา จากการเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวของอดีตผู้บริหาร ที่เข้ามาตักตวงผลประโยชน์ต่างๆใน มนพ. เริ่มจากแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับ มนพ. เพื่อเปิดช่องให้คนที่ตนเองชี้นิ้วสั่งการได้เข้ามาแทนที่ พร้อมสร้างเครือข่ายทายาทตะขาบไปทุกคณะ ก่อนจะตกต่ำลงมาเรื่อยๆ เพราะอดีตผู้บริหารไม่ชอบคนเก่ง แต่ชอบคนยอมทำตามทุกเรื่องโดยเฉพาะเบี้ยบ้ายปลายทาง ผู้มีความรู้ ความสามารถ สามารถอบรมสั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนมีคุณภาพ จึงถูกกำจัดออกนอกเส้นทาง ทั้งกลั่นแกล้งและใส่ความ
ส่วนคนที่ศิโรราบแทบเท้าและยอมเป็นขุนพลอยพยัก แม้มีผลงานการสอนอยู่ระดับบ๊วยก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ได้ในยุคคนชั่วครอง มนพ.
หลังเซ็ทซีโร่ “set zero” อดีตผู้บริหารที่เป็นเสมือนร่างทรงของคนชรา ก็มีคณะบุคคลเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนฯ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า มีแต่ลอยไปลอยมาให้หมดภารกิจไปวันๆ จนกระทั่งมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ เป็นนายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2564 ทำให้คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เนื่องจากท่านเคยดำรงตำแหน่งนายกสภาฯ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2548 ประกอบกับมีตำแหน่งทางด้านการเมือง และทางการแพทย์อีกมากมาย จึงเป็นบุคคลที่มีความความสามารถอย่างเต็มเปี่ยม
การแก้ปัญหาใน ว.การบินฯ ที่ผ่านมาเอาคนที่ไม่รู้เรื่องการบินมานั่งหัวโต๊ะ คุยกี่รอบก็ตั้งท่าจะยุบสถานเดียว พอถูกไล่บี้ก็ทุบโต๊ะให้ไปฟ้องร้องเอาเอง อีกทั้งเงินเดือนค้างจ่ายยังแพร่ไปอีกหลายคณะ แต่มาสำเร็จก็ในยุคที่ ศ.นพ.กระแส ชนะวงศ์ เป็นนายกสภาฯ จึงมีคำถามไปถึงผู้บริหารก่อนหน้านี้ ว่า ที่ผ่านมาพวกคุณทำอะไรกันอยู่
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคนนครพนมไม่ร่วมมือด้วย กลุ่มผู้ตักตวงผลประโยชน์ใน มนพ. ก็ปฏิบัติการไม่สำเร็จ จึงมีคณาจารย์บางคนเปิดประตูให้คนเข้ามาปล้นบ้านตัวเอง แถมมีกลุ่มคนที่อ้างตนเป็นสื่อเข้าไปขอส่วนแบ่งเล็กๆ น้อยๆ ถึงขั้นยอมเป็นผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ บอกแก่ลูกน้องว่า “ม.นครพนมพวกเราต้องช่วยกันป้องกัน” แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลุ่มที่อ้างตนเป็นสื่อไม่สามารถช่วยอะไรได้ ถนัดแต่โม้ไปรีดไถเท่านั้น
