“ผมมารับน้องกลับบ้านพร้อมกัน” นายก ทต.โคกภู เฝ้าริมโขงรอรับร่างสาวอุ้มลูก 7 ขวบโดดน้ำฆ่าตัวตาย เพื่อนยันเป็นคนอารมณ์ดี งมหาเกือบ 30 ชม.ยังไร้เงาผู้สูญหาย
กรณี นางวีณา แฮนเกตุ อายุ 44 ปี ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา ชำนาญการ กองการศึกษาเทศบาลตำบลโคกภู อ.ภูพาน จ.สกลนคร ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กธ 4437 สกลนคร เดินทางจากบ้านพัก ต.โคกภู ซึ่งอยู่บนเทือกเขาภูพาน โดยอุ้มน้องยินดีวัย 7 ขวบลูกสาวคนเดียวที่เกิดจากสามีที่รับราชการทหารอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยได้จอดรถทิ้งไว้ริมถนนก่อนจะอุ้มลูกสาวไปนั่งที่ท่าเทียบเรือประตูโขง เขตเทศบาลตำบลธาตุพนมเหนือ และสอบถามคนละแวกนั้นว่าพื้นน้ำตรงไหนลึกตรงไหนตื้น จากนั้นก็อุ้มลูกโดดลงแม่น้ำโขงหายไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงขณะนี้ทีมนักประดาน้ำงมหาร่างสองแม่ลูกเกือบ 30 ชั่วโมงแต่ยังไร้เงา
ส่วนสาเหตุการตัดสินใจจบชีวิตตนเองพร้อมลูกสาวที่อยู่ในวัยน่ารักน่าชัง ยังคงเป็นปริศนาเพราะเพื่อนร่วมงานทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นางวีณาไม่เคยบ่นอะไรเกี่ยวกับเรื่องปัญหาหนี้สิน มีแต่พูดคุยกันในสำนักงานเรื่องสนุกสนานเฮฮาคลายเครียดกัน
ซึ่งระหว่างทีมค้นหาใต้น้ำ ประกอบด้วย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (นรข.เขตฯ) โดยสถานีเรือธาตุพนม และ กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ก็มีคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และพนักงานบางส่วนจากเทศบาลตำบลโคกภู ประมาณ 20 คน นำโดยนายอครเดช ยังแสนภูม นายกเทศมนตรีฯ มาดูการงมหาร่างผู้ใต้บังคับบัญชาของตน พร้อมเปิดเผยว่านางวีณาเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่ง ไม่เคยมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องงาน ทุกคนทราบข่าวรู้สึกช็อกมาก บางคนถึงกับร้องไห้โฮ ตนในฐานะผู้บริหารเทศบาลตำบลโคกภู จะยังไม่กลับจนกว่าจะพบร่างนางวีณา “ผมจะรอรับน้องเขากลับบ้านพร้อมกัน” นายอครเดช ยังแสนภูม กล่าว และก็ไม่ยอมลุกไปไหนยังคงนั่งเก้าอี้พลาสติกอยู่ที่ในโป๊ะท่าเทียบเรือด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
ขณะเดียวกัน นายบุญยงค์ พฤกษชาติ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกภู เขต 2 (สท.เขต 2) ซึ่งนั่งรวมอยู่กับกลุ่มเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เปิดเผยว่าเพิ่งทราบข่าวเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จึงไปสอบถามมารดาของนางวีณาซึ่งมีบ้านอยู่ไม่ไกลจาก ทต.โคกภูนัก ทราบว่าในช่วงเช้าของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นางวีณาจะพาน้องยินดีลูกสาวไปไหว้องค์พระธาตุพนม ซึ่งมารดาค้านว่าควรไปคนเดียวไม่ต้องเอาลูกไป แต่นางวีณาไม่ยอมและอุ้มน้องยินดีขึ้นรถขับออกไปทันที มาทราบอีกทีว่าโดดน้ำปลิดชีวิตตนเองในแม่น้ำโขงแล้ว ส่วนตัวรู้สึกเสียใจเพราะนางวีณาเป็นคนรับผิดชอบงานดีมาก แต่ไม่รู้สาเหตุการตัดสินใจเช่นนี้จริงๆ
ส่วนนายบุญทม แฮนเกตุ บิดาของนางวีณาแม้จะมีอาการเมื่อยล้า ญาติพยายามให้ไปพักผ่อนแต่ก็ไม่ยอมยังคงเดินวนเวียนบริเวณจุดที่ลูกสาวกับหลานจมหายไป พร้อมบนบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พบร่างโดยเร็ว
ด้านการค้นหาชุดปฏิบัติการได้หยุดภารกิจลงหลังเวลามืดค่ำ โดยทีมนักประดาน้ำได้ปรับเปลี่ยนการค้นหาใต้น้ำมาเป็นค้นหาบนผิวน้ำ เพราะเชื่อว่าร่างของผู้สูญหายจะลอยขึ้นจากก้นแม่น้ำโขงเอง
