นรข.ยึดยาเสียสาว 180 กก. มูลค่า 72 ล้านบาท พร้อมจับผู้ต้องหา 2 รายรับจ้างขนกัญชา 227 แท่งส่งนายทุนกรุงเก่า
ณ บริเวณลานหัวกะโหลกริมแม่น้ำโขง กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(บก.นรข.) จังหวัดนครพนม นายวรรณพล ต่อพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(ผบ.นรข.) พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(รอง ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.ต.อ.(หญิง) จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม(ผกก.พฐ.ฯ) นายปรีชา สอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน ร.ต.วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2108 (ผบ.ทพ.2108) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21(ฉก.ทพ.21) และเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าวผลการบูรณาการความร่วมมือเฝ้าระวัง ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนและในพื้นที่ ภายใต้แผนยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง ประจำปี 2565 จนนำไปสู่ปฏิบัติการ 2 เหตุการณ์ จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง 227 แท่ง/กิโลกรัม,ยาเคตามีน 180 ห่อ/กิโลกรัม และรถยนต์ 2 คัน
เหตุการณ์แรก เป็นการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมกัญชาแห้งอัดแท่ง 227 แท่ง/กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง 1 คัน รถยนต์ปิกอัพ 1 คัน โดย บก.นรข.ได้รับแจ้งข่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบส่งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายบริเวณบ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน น.ท.วรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม (หน.สน.เรือฯ) หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตนครพนม (นรข.เขตนครพนม) จึงได้จัดชุดลาดตระเวนเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
กระทั่งเวลา 19.30 น. ได้ตรวจพบรถยนต์ปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีดำ เลขทะเบียน 2 ขฎ 8594 กทม. วิ่งเข้าไปจอดริมฝั่งแม่น้ำโขง จากนั้นมีกลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาบริเวณรถที่จอดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดระยะพื้นที่เพื่อดูพฤติกรรม และได้ยินการพูดคุยของกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่ากำลังค้นหากุญแจรถอยู่ ขณะเดียวกันก็มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน กร 5698 พระนครศรีอยุธยา เข้ามาจอด พร้อมกับหันท้ายรถลงฝั่งแม่น้ำโขง แล้วกลุ่มบุคคลก็ได้ขนวัตถุบางอย่างมาใส่ในท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าตรวจสอบ เมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทางในความมืด แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมตัวมาได้ 2 ราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่ ทราบว่าชื่อนายเกยูร ทะนะไชย อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 6/3 บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท โดยอ้างว่าได้ค่าจ้าง 10,000 บาท และ นายสิทธิชัย บุญพิมพ์ หรือบอส อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 1 ต.เวินพระบาท ได้ค่าจ้างขนแค่ 300 บาท แต่ทั้งสองอ้างว่ายังไม่ได้เงินค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว เมื่อนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายพบเป็นฉี่สีม่วง ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อนลงมือทำงานได้เสพยาบ้ามาคนละ 2 เม็ด ส่วนรถยนต์ของกลางที่ยึดได้ ตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองแล้วทั้งสองคัน มีชื่อผู้ครอบครองพำนักอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยรอบพบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 227แท่ง/ กิโลกรัม จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานนำส่ง สภ.ท่าอุเทน ดำเนินคดีต่อไป
เหตุการณ์ต่อมาเป็นการตรวจยึดยาเคตามีน(ยาเค) จำนวน 180 ห่อ กิโลกรัม โดย บก.นรข.ได้รับการประสานงานด้านการข่าว กับหน่วยความมั่นคง หน่วยขึ้นตรง และหน่วยขึ้นควบคุมทางยุทธการของกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ) ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่อำเภอธาตุพนม ในห้วงวันที่ 2-7 มีนาคม 2565 จึงได้มีการจัดชุดลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณที่ได้รับแจ้ง กระทั่งเวลา 23.00 น. ชุดปฏิบัติการ ได้ตรวจพบเรือกีบเพลายาวมีคนอยู่ในเรือ 2 คน ลอยลำเข้ามาจอดที่ริมฝั่งแม่นำโขง บริเวณหัวดอนหาดแห่ บ้านนาคำ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จึงได้รีบเข้ากระชับพื้นที่ แต่ด้วยเรือลำดังกล่าวใช้เวลาไม่นานก็แล่นกลับออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามได้ทัน จึงได้กระจายกำลังตรวจสอบบริเวณที่เรือเข้าจอดและพื้นที่ใกล้เคียง พบกระสอบพลาสติกสีดำ จำนวน 4 กระสอบวางอยู่ จึงได้กระจายกำลังดักซุ่มรอว่าจะมีคนมาขนย้ายวัตถุดังกล่าว กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงเวลา 01.30 .น. ก็ไม่พบความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงได้เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอีกครั้ง พบเป็นห่อสำหรับบรรจุชาขียวของประเทศจีน เมื่อนำไปให้ พฐ.นครพนม พิสูจน์พบภายในเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) หรือยาเสียสาว จำนวน180 ห่อ/กิโลกรัม มูลค่าเบื้องต้นกิโลกรัมละ 400,000 บาท คิดเป็นเงิน 72 ล้านบาท
ยาเคตามีน (ketamine) หรือที่รู้จักกันในหมู่ผู้ใช้ยาเสพติดว่า″ยาเค” กระทรวงสาธารณสุขของไทยควบคุมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในประเภท 2 เป็นยาที่ใช้ในทางการแพทย์เพื่อใช้เป็นยาสลบ คือ ทำให้สลบ หลับ ไม่เคลื่อนไหว สูญเสียความทรงจำ ไม่เจ็บปวด เคตามีนมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ความดันโลหิตและอัตราการเต้นหัวใจอาจเพิ่มเล็กน้อย
ในปัจจุบันได้มีผู้นำเคตามีนไปใช้ในทางที่ผิดเพื่อหวังฤทธิ์ในการหลอนประสาท โดยนำเคตามีนชนิดฉีดมาทำให้แห้งเหลือแต่ตะกอนสีขาว แล้วเสพโดยการสูดดม หรือสูบควัน ซึ่งหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดโรคจิต ทั้งนี้ การเสพยาเคเป็นเวลานาน จะทำให้ผู้เสพทนต่อฤทธิ์ยา ทำให้ต้องใช้ยาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นถึงจะออกฤทธิ์เท่าเดิม ทำให้เกิดอันตราย เพราะการใช้ยาเคในขนาดที่สูง จะทำให้เกิดการอาเจียน ชัก สมองและกล้ามเนื้อขาดออกซิเจนได้ การใช้ยาเคในขนาดที่สูงถึง 1 กรัมอาจทำให้ตายได้ นอกจากนี้การใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการติดยาทั้งทางร่างกาย และจิตใจ โดยยาเคจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ที่ต่อจิตและประสาทในประเภทที่ 2 ตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559
นอกจากนี้อาจเคยได้ยินคำว่ายาเสียสาวกันมาบ้าง โดยเป็นการใช้ยาผสมลงในอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อให้เหยื่อที่เป็นผู้หญิงทานหรือดื่มเข้าไปแล้วหมดสติ จนสามารถขมขื่นหรือชิงทรัพย์ได้โดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว ยาเสียสาวที่ว่า มักเป็นสารเคมี หรือเป็นยาที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้ ยามิดาโซแลมหรือชื่อการค้าโดมิคุม,ยาอัลปราโซแลม,ยาฟลูไนตราซีแปม หรือชื่อการค้า โรฮิบนอล,สารจีเอชบี และยาเค หรือ เคตามีน (ketamine) เมื่อมีการนำยาเหล่านี้ไปละลายในเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้คนดื่มไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีการผสมยาลงไป ซึ่งหากใส่ไปในเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์จะยิ่งเพิ่มการออกฤทธิ์ของยาเหล่านี้ และอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตหากใช้เกินขนาด เนื่องจากมีฤทธิ์การกดการหายใจ จนเกิดอาการโคม่าเสียชีวิตได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: