ลูกบ้านร้องสื่อ ผญบ.ฟาดหัวแตกเย็บ 6 เข็ม แถมยิงปืนขู่กลางหมู่บ้าน ลั่นติดคุก 6 เดือนก็พ้นโทษ ตร.เตรียมเรียกตัวรับทราบข้อกล่าวหา
วันที่ 18 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายศักดิ์ชาย สีทอง อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 บ้านแก้ง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ว่า ถูกผู้นำหมู่บ้านใช้ไม้ไผ่ตันฟาดที่ศีรษะแตกเย็บถึง 6 เข็ม เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวดังกล่าว พบว่าบ้านที่นายศักดิ์ชายอาศัยอยู่ดัดแปลงจากโกดังเก็บของเป็นที่พักอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อนางคำผอง สีทอง อายุ 59 ปี ส่วนลูกหลานอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่บนเนื้อที่เดียวกัน
นายศักดิ์ชายเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. ได้นั่งดื่มเหล้าขาวอยู่กับเพื่อนที่เถียงนาของตนรวม 3 คน ขณะนั้นเองนายประเดิม แสนไชย อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 มีศักดิ์เป็นหลายเขยและมีบ้านอยู่ติดกัน ได้กลับจากดูนาตนเองก็เดินเข้ามาร่วมวงด้วยรวมเป็น 4 คน พอได้ที่ก็ส่งเสียงดังโขมงโฉงเฉง ซึ่งตนได้มีการโต้เถียงกับนายประเดิมหลานเขย แล้วนายประเดิมคว้าไม้ไผ่ตันที่ตนวางไว้ข้างเถียงนามาฟาดที่ศีรษะอย่างแรง 1 ครั้งจนเลือดอาบ แล้วฟาดเข้าที่กกหูขวาอีก 1 ครั้ง จากนั้นนายประเดิมก็ทิ้งไม้เดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนตนได้กุมหัวกลับมาบ้านให้ลูกสาวพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองเทา (รพ.สต.ฯ) แต่ได้ถูกส่งมาต่อที่โรงพยาบาลท่าอุเทน แพทย์เห็นว่าเลือดไหลไม่หยุดจึงส่งตัวไปที่โรงพยาบาลนครพนม ผลสแกนสมองไม่พบสิ่งผิดปกติ แพทย์เย็บบาดแผลให้ 6 เข็มก่อนจะส่งกลับมาที่โรงพยาบาลท่าอุเทนอีกครั้งเพื่อรอดูอาการ รุ่งเช้าจึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านรายนี้ แม้จะมีศักดิ์เป็นหลานเขยก็ตาม
ด้านนางคำผองภรรยาของนายศักดิ์ชายผู้บาดเจ็บเล่าว่า หลังเกิดเหตุทางนายประเดิมไม่เคยเข้ามาพูดคุยขอโทษขอโพยแต่อย่างใด กลับถืออาวุธปืนเข้ามาหาตนที่บ้าน แล้วพูดว่า จะขอต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด แม้ติดคุกก็ไม่เกิน 6 เดือน ถ้าออกมาพวกเจ้าจะอยู่ลำบาก ด้วยความกลัวก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น ซึ่งนายศักดิ์ชายพูดเสริมว่าถ้านายประเดิมต้องการจะจบเรื่องตนขอค่าทำขวัญ 2 แสนบาท หากไม่ได้ให้ไปจบที่ศาลจังหวัดนครพนมอย่างเดียว ส่วนพฤติกรรมของนายประเดิมนั้นนายศักดิ์ชายบอกว่าวีรกรรมเยอะ เช่น เคยฟันหัวเมียตัวเองแบะมาแล้ว แม้แต่พ่อตาแม่ยายเคยโดนล็อคคอเพราะฤทธิ์เหล้า เวลาเมามักจะยิงปืนเสมอ เหตุที่ได้ผู้ใหญ่บ้านเพราะ 1.ญาติเยอะ และ 2.ไม่มีใครอยากเป็น เพราะพื้นที่นี้เป็นเป้าหมายของทางการกรณียาเสพติดข้ามแม่น้ำโขง
ระหว่างนั้นเอง ร.ต.อ.สุพจน์ แก้วมณี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เจ้าของคดีได้ขับรถยนต์ส่วนตัวมาขอไม้ไผ่ตันที่นายประเดิมใช้เป็นอาวุธฟาดหัวนายศักดิ์ชายจนเลือดอาบ พร้อมกับเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้สอบปากคำพยานครบแล้ว ก็จะเรียกตัวนายประเดิมมารับทราบข้อกล่าวหา โดยแยกออกเป็นแพ่งและอาญา ซึ่งผู้เสียหายกับคู่กรณีสามารถตกลงค่าทำขวัญกันได้ ส่วนคดีอาญายอมความไม่ได้ต้องดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สิ่งที่ตนกังวลคือทั้งคู่เป็นญาติและมีบ้านติดกัน หากตกลงหรือออมชอมกันไม่ได้อนาคตจะอยู่กันอย่างไร ลูกหลานจะมองหน้ากันได้ไหม หรือจะพึ่งพาอาศัยกันต่อไปได้ไหม
ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนายประเดิม แสนไชย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ที่ออกมาเปิดเผยอีกมุมหนึ่งว่า ในวันที่เกิดเหตุนั้นตนไปนั่งดื่มเหล้าที่เถียงนาของนายศักดิ์ชายจริง โดยระหว่างนั้นนายศักดิ์ชายวานให้ตนไปซ้อนเอาผำ(พืชชนิดหนึ่งที่เป็นเม็ดกลมๆ เล็กๆ สีเขียวอ่อน อาหารคนพื้นเมือง) เพื่อไปส่งให้ลูกสาวที่อยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ตนมีงานที่จะต้องเขียนส่งผู้บังคับบัญชาจึงปฏิเสธ นายศักดิ์ชายก็โวยวายดุด่าตนอย่างสาดเสียเทเสีย พร้อมท้าว่าไปเอาปืนมายิงกันคนละนัดไหม ตนก็ตอบว่าปืนยิงถูกใครก็ตายหมดอย่าหาเรื่องเลย แต่นายศักดิ์ชายก็ไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ได้ ตนเห็นว่าในเถียงนานายศักดิ์ชายมีปืนแก๊ปอยู่กระบอกหนึ่ง หากคว้ามายิงมีโอกาสตายจึงชิงลงมือก่อนคว้าไม้ไผ่ตันที่วางพิงไว้ฟาดที่ศีรษะนายศักดิ์ชายจนเลือดอาบ จากนั้นก็กลับบ้านไปเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวให้ญาติฟัง จึงให้ผู้เฒ่าผู้แก่ไปขอขมาด้วยการมอบเงินทำขวัญ 5,000 บาท
เมื่อสอบถามว่าหลังเกิดเหตุไม่เคยไปพูดคุยกับคู่กรณี แถมได้ไปข่มขู่ถึงบ้านจริงหรือไม่ นายประเดิมเล่าว่าวันที่ไปพบนางคำผองตนบวชหน้าไฟให้แม่ที่เพิ่งเสียชีวิต และยังไม่ได้ถอดผ้าเหลืองด้วยซ้ำได้ไปหานางคำผองเพื่อกล่าวขอโทษ ไม่ได้ไปข่มขู่ตามที่ฝั่งตรงข้ามกล่าวอ้าง ส่วนที่กล่าวหาว่าตนยิงปืนนั้นยอมรับว่าจริง เพราะวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมาหลังเสร็จงานศพแม่ก็จัดงานทำบุญอุทิศส่วนกุศล ตนถือโอกาสยิงปืนกลาง 4 แยกจำนวน 5 นัด เพื่อส่งวิญญาณแม่ไปสู่สุคติไม่ได้เป็นการข่มขู่ผู้ใดทั้งสิ้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจากผู้นำชุมชน ต.หนองเทา ว่า หลังเกิดเหตุได้แนะนำให้นายประเดิมส่งผู้หลักผู้ใหญ่ที่นายศักดิ์ชายเคารพนับถือไปขอขมา ปรากฏว่านายประเดิมไม่ทำตามที่บอก ส่งให้เมียตนเองไปเจรจาพูดคุย แทนจะอ่อนน้อมกับคู่กรณีกลับไปด่าเขาอีก ส่วนเงิน 5 พันที่อ้างว่ามอบให้เป็นค่าทำขวัญนั้น ความจริงคือเมียนายประเดิมถือเงินกลับบ้าน เรื่องจึงบานปลายมาถึงวันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: