นายกเล็ก ทต.นาแก ปัดเอี่ยวทุจริตสร้างบ่อขยะ 72 ล้านบาท หลัง กมธ.ปปช.ลงพื้นที่ตรวจสอบ ด้าน สตง.ชี้ไม่คุ้มค่าสั่งคืนเงิน
วันที่ 30 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม ว่า นายธวัชชัย มณีกุลทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาแก เปิดเผยกรณีเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.). สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน ส่งทีมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงเร่งรัดการสอบเอาผิดตามกระบวนการของกฎหมาย ตามคำสั่งของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ทั้งทางแพ่ง และอาญา หลังปี 2560 สตง. มีมติสั่งคืนเงินเพราะใช้งานไม่คุ้มค่า เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้านบาทของเทศบาลตำบลนาแก มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการคัดแยกขยะในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.นาแก,ธาตุพนม,เรณูนคร และ อ.วังยาง จ.นครพนม ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างในอยู่ที่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 ต.นาเลียง อ.นาแก ในเนื้อที่กว่า 77 ไร่ โดยทีมผู้บริหารในอดีตดำเนินการก่อสร้างโครงการมาตั้งแต่ปี 2552 กระทั่งผู้บริหารชุดนั้นหมดวาระลง
ภายหลังได้ผู้รับจ้างดำเนินโครงการ เป็นจังหวะที่ตนได้รับการเลือกตั้งเข้ามารับตำแหน่งแทนช่วงปลายปี 2553 จึงต้องสานงานต่อตามหน้าที่ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หลังจากแล้วเสร็จยืนยันมีการเดินเครื่องบริหารจัดการมาตลอด แต่พอหมดวาระตนสอบตกในปี 2557 ทำให้มีทีมผู้บริหารชุดใหม่ เข้ามา และมีการหยุดเดินเครื่องกำจัดขยะ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสภาพการใช้งานบางส่วน ซึ่งตนไม่ทราบเหตุผลของคณะผู้บริหารชุดดังกล่าว จึงกลายเป็นปัญหามาถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า จากการศึกษาข้อมูล และการไปศึกษาดูงานหลายที่ ในการบริหารจัดการบ่อขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ ต้องใช้งบประมาณกว่า 170 ล้านบาท แต่ในส่วนของเทศบาลตำบลนาแก ได้รับงบประมาณจริงแค่ประมาณ 70 ล้านบาท จากการประกวดราคากลางที่ประมาณ 86 ล้านบาท ถือว่าหายไปจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการแน่นอน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตนชนะการเลือกตั้งกลับเข้ามาบริหารงานอีกรอบในปี 2564 ยอมรับว่าการเดินเครื่องกำจัดขยะ ไม่มีกำไร และไม่คุ้มทุนแน่นอน เพราะเป็นงานบริการต้องยอมขาดทุน ทำให้ปัจจุบันต้องเดินเครื่อง สัปดาห์ละครั้ง สามารถคัดแยกได้วันละประมาณ 15 ตัน เพื่อรักษาสภาพเครื่องจักร แต่ไม่สามารถเดินเครื่องได้ทุกวัน เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณต้นทุนในการเดินเครื่องด้วยระบบไฟฟ้า ถึงแม้มีเอกชนพยายามเข้ามาสัมปทานแต่ไม่สามารถดำเนินการได้
ส่วนปัจจุบันขยะรับมาจากพื้นที่ใกล้เคียงรวมวันละประมาณ 20 -25 ตัน เก็บค่าบริหารจัดการตันละ 600 บาท จึงใช้วิธีการฝังกลบแทน ดังนั้นตนจึงแก้ไขปัญหาด้วยการร่วมมือกับชุมชน ช่วยกันคัดแยกขยะลดปริมาณยะตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงหารือกับแรงงานที่เข้ามาคัดแยกให้สามารถนำขยะไปขาย เพื่อลดค่าจ้างแทน เป็นการแก้ไขปัญหา
นายธวัชชัย มณีกุลทรัพย์ กล่าวอีกว่า ในการบริหารจัดการขยะในอนาคตของเทศบาลตำบลนาแก จะต้องใช้วิธีฝังกลบเป็นหลักในเนื้อที่ 77 ไร่ ตนเชื่อมั่นว่าในระยะประมาณ 10 ปี ยังสามารถรองรับแก้ไขปัญหาได้ แต่หลังจากนั้นอาจต้องจัดหางบประมาณซื้อพื้นที่เพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณขยะที่มากขึ้น แต่ยืนยันว่ารับมือไหว และสามารถลดปัญหามลพิษกับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้
ส่วนปัญหาเรื่องการตรวจสอบการทุจริต ตนยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานรับผิดชอบ ตนมีหน้าที่สำคัญที่สุดคือการวางแผน สนับสนุนจัดหางบประมาณเพิ่มเติมมาแก้ไขปัญหา ทั้งเสริมเครื่องจักรในส่วนที่จำเป็น การเดินเครื่องจักรที่มีอยู่ตามสภาพ แต่เน้นวิธีฝังกลบ ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกำไร หรือจุดคุ้มทุน สำคัญที่สุดคือต้องไม่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก
