ปฏิรูปที่ดินนครพนม แจ้งความหาตัวนายทุนขุดแผ่นดินขาย เพื่อขยายทางหลวงมูลค่า 900 ล้านบาท พนักงานสอบสวนเตรียมฟันผู้ครอบครองที่ดิน สปก.
สืบเนื่อง มีกลุ่มนายทุนผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2032 สายท่าดอกแก้ว-ศรีสงคราม จากเดิมมี 2 เลนขยายเป็น 4 เลน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร งบประมาณ 900 ล้านบาท กำหนดสัญญาจ้าง ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 สิ้นสุดสัญญาจ้างเดือนสิงหาคม 2567 ปรากฏว่าผู้รับเหมาฉวยโอกาสลักลอบขุดดินในพื้นที่ สปก. พื้นที่บ้านคำเตย หมู่ 12 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อนำมาดำเนินการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว จึงมีชาวบ้านยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่มีหน่วยงานไหนขยับเพราะอ้างว่าเจอตอ กระทั่งยื่นเรื่องไปยังสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม จึงมีคำสั่งจากนายชัชวาลย์ ทรัพย์แก้วยอด ปฏิรูปที่ดินฯ ให้ฝ่ายกฎหมายลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา พบว่ามีการลักลอบขุดดินในที่ดิน สปก.จริง ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 3-4 ไร่
โดยในวันที่ลงพื้นที่พบเพียงบุคคลกล่าวอ้างว่าเป็นแค่ผู้รับจ้าง หรือผู้ดูแลเท่านั้น ส่วนนายทุนได้อ้างถึงนักการเมืองผู้หนึ่ง ซึ่งมีการต่อสายโทรศัพท์ถึงใครบางคนตลอดเวลา และมีการอ้างกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายปฏิรูปที่ดินฯว่าที่ดินบริเวณนี้มีหลักฐานเป็น นส.3 และจะสั่งให้อดีตนายก อบต.แห่งหนึ่งนำมายืนยัน ซึ่งเจ้าหน้าที่รออยู่ครึ่งวันก็ไม่ปรากฏแม้เงาของอดีตนายก อบต.คนนั้นแต่อย่างใด จึงได้ลงบันทึกการลงพื้นที่ไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด วันที่ 22 เมษายน 2565 นายชัชวาล ทรัพย์แก้วยอด ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม พร้อมฝ่ายกฎหมายนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ศักรินทร์ โพธินาม สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อให้ดำเนินการสอบสวน ดำเนินคดี กล่าวโทษผู้กระทำความผิดตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และลงพื้นที่ชี้จุดเกิดเหตุ บริเวณที่มีการลักลอบขุดขนดินในพื้นที่ สปก.ที่มีการจัดสรรให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ เมื่อปี 2544 จำนวน 2 แปลง ซึ่งทางตำรวจจะได้เตรียมรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกเกษตรกรผู้ครอบครอบพื้นที่ สปก.มาสอบสวน ขยายผล ดำเนินคดี รวมถึงนายทุน ในข้อหาลักทรัพย์แผ่นดินต่อไป ซึ่งจะมีการดำเนินคดีเอาผิดทั้งทางอาญา และทางแพ่ง ส่วนพื้นที่ดังกล่าวหลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ากลุ่มนายทุนได้มีการนำเครื่องจักร รถแบคโฮ และรถบรรทุก ออกจากพื้นที่หมดแล้ว โดยจะได้สอบสวนขยายผลเอาผิดตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ซึ่ง นายชัชวาล ทรัพย์แก้วยอด ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในเบื้องต้นหลังทีมกฎหมายลงพื้นที่แล้วได้มาชี้แจงรายละเอียด พบว่ามีการขุดดินในที่ดิน สปก.จริง ซึ่งออกให้กับเกษตรกรไปตั้งแต่ปี 2544 ในที่ดิน 2 แปลง ซึ่งทั้งสองแปลงน่าจะเป็นพี่น้องกัน ในวันที่เข้าไปในพื้นที่เราไม่ได้เจอตัวของเกษตรกร ตรวจพื้นที่ที่ขุดมีกันสองจุด จุดละไร่เศษๆ นอกนั้นเป็นการปรับพื้นที่เพื่อเอาต้นไม้เอาอะไรออกไป คาดว่าเตรียมการที่จะขุดเหมือนกันนั่นแหละ แต่ที่ขุดไปแล้วเห็นจากสภาพมีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ ส่วนขั้นตอนที่เราจะดำเนินต่อไปนี้คือในส่วนของการดำเนินคดีอาญาในข้อหาลักทรัพย์ ก็จะไปดำเนินการแจ้งความในวันนี้ ส่วนในการที่เกษตรกรทำผิดระเบียบไหม เราก็จะมีหนังสือแจ้งให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร กับการกระทำความผิดครั้งนี้ ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเราก็จะดำเนินการฟ้องในทางแพ่ง
นอกจากนี้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนมยังได้กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องนี้เวลามีการประชุมในระดับอำเภอ ก็จะชี้แจงในข้อระเบียบ กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอด ที่ผ่านมาผมอยู่ที่นี่ 3 ปีก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ในกรณีนี้ เพราะว่าเราจะบอกเสมอว่าผลเสียที่เกิดขึ้นเกี่ยวเอาดินออกไปไม่ว่าจะน้อยจะมาก มันจะทำให้เกษตรกรเสียสิทธิ์ในที่ดินเราก็เตือนมาโดยตลอด ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มันก็ไม่เกิดปัญหา ก็เพิ่งมาเจอรายนี้เป็นรายแรก
ส่วนเรื่องการเข้มงวดกับเกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์ทำกินใน สปก. ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม กล่าวว่าเข้มงวดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่มีเบาะแส ไม่มีการร้องเรียนเข้ามาเลย อย่างกรณีนี้เป็นการร้องเรียนครั้งแรกที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สปก. เราก็จะต้องดำเนินการโดยเคร่งครัด ว่ากันตามกฎระเบียบที่มีอยู่
