X

ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 3 นครพนม แชมป์ 11 สมัยสยบข่าวลือสื่อมั่วข่าว ลั่นไม่หักหลังประชาชนซบพรรคอื่น

ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 3 นครพนม แชมป์ 11 สมัยสยบข่าวลือสื่อมั่วข่าว ลั่นไม่หักหลังประชาชนซบพรรคอื่น ขออยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยตลอดกาล

วันที่ 24 เมษายน 2565 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 นครพนม แชมป์ 11 สมัย ปัจจุบันอายุ 75 ปี เปิดเผยว่าจากกรณีมีข่าวบิดเบือนจนกลายเป็นกระแสการเมืองผ่านสื่อบางสำนักว่า ในการเลือกตั้งสมัยหน้าตนจะย้ายจากพรรคเพื่อไทยไปซบพรรคสีน้ำเงินหรือพรรคภูมิใจไทย ตนขอยืนยันจุดยืนว่า ตลอดการทำงานการเมืองมากว่า 32 ปีมาถึงวันนี้ยังไม่เคยมีความเปลี่ยนแปลงในอุดมการณ์ทางการเมือง โดยเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย ยังเป็นความหวังของพี่น้องประชาชนที่เข้าใจความทุกข์ยาก ตลอดจนความเป็นอยู่ของประชาชนที่มาจากการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลปัจจุบัน

“ทั้งนี้ตัวผมเองได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวนครพนม ชนะการเลือกตั้งถึง 11 สมัยถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่น ว่าผมเป็นผู้แทนที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนทั้งในสภาและนอกสภา แม้แต่ในช่วงมีการยึดอำนาจไป ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ เพราะเชื่อว่าประชาธิปไตยคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นในการที่ผมจะเปลี่ยนแปลงย้ายพรรคไปสังกัดพรรคอื่นนั้น ไม่เป็นความจริง มีสื่อบางสำนักนำไปเสนอบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิด ผมขอร้องอย่านำข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปสร้างกระแส เพราะตนไม่เคยมีความคิดดังกล่าว ยังต้องการที่จะขับเคลื่อนสนับสนุนพรรคเพื่อไทย พัฒนาร่วมกับชาว จ.นครพนม ที่ให้ความไว้วางใจตลอดมา ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ยังทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด ตลอดเวลาแม้แต่คิดยังไม่เคยที่จะหนีจากพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย คือพรรคที่เป็นความหวังของประชาชนในเส้นทางการเมืองยุคต่อไป”

ดร.ไพจิต ศรีวรขาน เปิดเผยต่ออีกว่า สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนยังยืนยันที่จะลงสมัครเลือกตั้งในพื้นที่เขต 3 นครพนม ส่วนจะมีคนที่อยากจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในการลงสมัครเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมีกระบวนการคัดสรรที่ดีอยู่แล้ว และจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน ทุกคนมีโอกาส ขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรค นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะมีกระแสการเมืองออกมาหลายด้าน เกี่ยวกับการสนับสนุนของพรรคการเมืองใหญ่ กับการเมืองระดับท้องถิ่น แต่ตนมองว่าสำคัญที่สุด ต้องขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองใหญ่ที่จะเป็นหลัก เป็นแกนในการขับเคลื่อนนโยบาย และการดูแลประชาชน โดยจะต้องเป็นประชาธิปไตยเท่านั้นคือสิ่งดีงาม ที่จะสะท้อนให้ประชาชนมีความหวัง เชื่อว่าพรรคเพื่อไทย ยังมีความจริงใจในการสร้างประชาธิปไตยให้เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ทั้งนี้ในภาพรวมของอีสาน ตนยอมรับว่า ต้องขอความร่วมมือจากชาวอีสาน รวมคนไทยทุกภาค ที่จะร่วมกันสร้างประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ถึงแม้รัฐบาลจะใช้อำนาจในการบริหารบ้านเมือง แต่ตนเชื่อมั่นว่าไม่สามารถที่จะสร้างความสุขให้กับประชาชนได้ มาถึงวันนี้ตนเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องคืนความสุขให้กับประชาชน สร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ สำคัญจะต้องให้อำนาจประชาชน ประชาชนมีหูมีตา ประชาชนคือผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ถึงแม้รัฐบาลสืบอำนาจจะมี สว.ถึง 250 ที่นั่ง ยังเชื่อว่ายังมี สว.บางส่วนที่ยังเป็นฝ่ายประชาธิปไตย สำคัญที่สุดตนเชื่อว่าไม่สามารถที่จะต้านพลังของประชาชนได้อย่างแน่นอน ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะคืนความสุขให้ประชาชน ด้วยการจัดการเลือกตั้งใหม่ ขอฝากความหวังกับ ส.ส.ทุกคนที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ที่จะต้องร่วมกัน สร้างประชาธิปไตย เพื่อประชาชน อย่าหักหลังประชาชน เกือบ 3 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นความสุขของประชาชนที่แท้จริง ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องยุบสภาคืนอำนาจแก่ประชาชน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน