“กัญชามาแปลก” ตชด.237 ยึดอัดแน่นกระสอบปุ๋ย เปลี่ยนจากรูปแบบแท่งน้ำหนักรวมกว่า 200 กก. คาดสะดวกในการขนส่ง เชื่อมีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง
วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ตชด.237) ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 (ผกก.ตชด.23) มอบหมายให้ พ.ต.ท.เฉลิมชัย ศรีทอง ผบ.ร้อย ต.ชด.237 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวปราบปรามยาเสพติด,หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) กองร้อยทหารพรานที่ 2109 (ทพ.2109) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกล.ฯ) และฝ่ายปกครอง แถลงการณ์ตรวจยึดกัญชาแห้งนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน บรรจุอยู่ในถุงปุ๋ยสีส้มมีตัวอักษรภาษาเวียดนาม ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแน่นเต็มกระสอบปุ๋ย จำนวน 7 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละประมาณ 30 กิโลกรัม รวมประมาณ 200 กิโลกรัม และยังพบว่าเป็นกัญชาคุณภาพสดใหม่เกรดเอ ส่วนใหญ่เป็นช่อดอกเกือบทั้งหมด คิดมูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 10,000-15,000 บาท รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
ข่าวน่าสนใจ:
การตรวจยึดครั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในราชอาณาจักร จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงวางแผนลาดตระเวน กระทั่งได้ลาดตระเวนถึงบริเวณป่าริมถนนทางเข้าสำนักสงฆ์บ้านพนอม หมู่ 3 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน แต่ไม่พบผู้ใดคาดว่ามีการลำเลียงทางเรือหางยาวเข้ามาช่วงกลางดึก เพื่อขนส่งนำมาพักแบบกองทัพมด รอการส่งต่อไปขายพื้นที่ตอนในของไทย
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าการตรวจยึดกัญชาครั้งนี้ถือเป็นรูปแบบแปลกใหม่ที่ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ มีการนำกัญชาแห้งบรรจุรวมอัดแน่นใส่กระสอบปุ๋ย เชื่อว่าเพื่อความสะดวกในการขนส่งและใช้เวลาในการบรรจุเร็วขึ้น จากปกติการตรวจยึดที่ผ่านมาจะเป็นการอัดแท่ง 4 เหลี่ยม น้ำหนักแท่งละประมาณ 1 กิโลกรัม ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์และพลาสติกอีกชั้น ก่อนที่จะบรรจุใส่กระสอบปุ๋ยในการลำเลียงขนส่ง อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนขยายผลติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเข้มงวดตามแนวชายแดน สกัดกั้นจับกุม ป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติดทุกประเภท โดยเฉพาะกัญชาช่วงนี้พบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบรรจุเพื่อสะดวกในการลำเลียง โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการตรวจยึดในพื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มากกกว่า 3 ตัน ส่วนใหญ่พื้นที่หลักจะใช้พื้นที่ อ.ท่าอุเทน ในการนำเข้า เชื่อว่าน่าจะมีนายทุนใหญ่ในพื้นที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: