“นครพนม”นายทุนลักลอบขุดดิน สปก.สร้างทางหลวง พบอดีตนายก อบต.มีเอี่ยว ปฏิรูปที่ดินแจ้งความเอาผิด ตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบความเสียหาย ฟ้องชดใช้ทางแพ่ง ควบคู่อาญา
คืบหน้ากรณี นายชัชวาล ทรัพย์แก้วยอด ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ทีมกฎหมายสำนักงานปฏิรูปที่ดินฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเอาผิดกรณีมีชาวบ้านพื้นที่บ้านคำเตย หมู่ 16 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ร้องเรียนว่ามีกลุ่มนายทุนอ้างเป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างถนนทางหลวง กรมทางหลวง ลักลอบขุดดินลูกรังในพื้นที่ สปก. โดยผิดกฎหมาย เพื่อนำไปดำเนินการก่อสร้างโครงการขยายทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2032 สายบ้านท่าดอกแก้ว-อ.ศรีสงคราม ระยะทาง 28 กิโลเมตร โดยนำดินจากพื้นที่ สปก.ไปถมที่ดินช่วงขยายเส้นทางการจราจร และฉวยโอกาสซื้อขายกับชาวบ้านที่ไม่รู้กฎหมายด้านการครอบครองสิทธิ์ในราคาต้นทุนต่ำ อีกทั้งพื้นที่ สปก.บริเวณนี้มีระยะทางใกล้ สะดวกในการบรรทุกขนส่ง เพื่อลดต้นทุนหวังโกยกำไร กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบการกระทำผิดตามที่ร้องเรียนจริง
ซึ่งหลังลงพื้นที่นายชัชวาล ทรัพย์แก้วยอด ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม ได้นำทีมกฎหมายรวบรวมหลักฐาน เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ศักรินทร์ โพธินาม สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อสอบสวนเอาผิดบุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยทางพนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าของที่ดินทั้ง 2 แปลงมาสอบสวนเบื้องต้นพบเป็นที่ดิน สปก.4-01 อยู่ในการครอบครองของนางสาวบุดชบา โยธาตรี อายุ 65 ปี อาชีพเกษตรกร มีเนื้อที่จำนวน 18 ไร่ ส่วนแปลงที่ 2 เป็นของ นายสุ โยธาตรี อายุ 80 ปี เป็นเกษตรกรมีร่างกายพิการมาแต่กำเนิด ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และให้ญาติพี่น้องดูแลครอบครองสิทธิ์ทำกินแทนเนื้อที่รวม 18 ไร่
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม เปิดคลิป วัยรุ่น เหิมหนัก ยกพวกใช้มีดไล่ฟันคู่อริ พร้อมทุบทำลายทรัพย์สินอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้น สำหรับนางสาวบุดชบา โยธาตรี อายุ 65 ปี ยืนยันว่าเป็นเจ้าของพื้นที่จริง ส่วนการตกลงซื้อขายหรือเหตุผลที่ยินยอมให้นายทุนเข้าไปดำเนินการขุดดินออกจากพื้นที่ไปนั้น ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนร่วมกับปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม และประเมินค่าความเสียหายเพื่อนำมาประกอบในสำนวน เพื่อดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง พร้อมขยายผลไปถึงนายทุนที่เข้าไปดำเนินการลักลอบขุดดินในเขตพื้นที่ สปก. เชื่อว่ามีเจตนาเพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่รู้กันทั้งหมู่บ้านว่าเป็นพื้นที่ สปก.ที่ได้รับการจัดสรรให้เกษตรกรเข้าไปทำประโยชน์ด้านการเกษตร ตามเจตนารมณ์ที่ทางรัฐมอบให้ผู้ครอบครองสิทธิ์มีที่ดินทำกิน
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผล พบเบาะแสเชิงลึกมีนายทุน เป็นอดีตนายก อบต.แห่งหนึ่ง ชื่ออักษรย่อ “ต” เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เข้าไปสั่งให้ผู้รับเหมานำเครื่องจักรเข้าไปลักลอบขุดดินขาย และเจรจาเชิงข่มขู่ให้ชาวบ้านสมยอมเพื่อลดต้นทุนในการรับจ้างจากบริษัทเอกชนที่รับงานมาจากกรมทางหลวง เพื่อโกยกำไรจากการก่อสร้างถนน
นายชัชวาล ทรัพย์แก้วยอด ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีกลุ่มนายทุนที่เข้าไปลักลอบขุดดินพื้นที่ สปก.4-01 จำนวน 2 แปลงๆละ 18 ไร่ ซึ่งจัดสรรให้เกษตรกรเข้าไปทำกิน โดยจากการตรวจสอบมีการแผ้วถางป่าออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว คาดว่าเตรียมการขุดดินออกไปขาย แต่มีการตรวจสอบดำเนินคดีเสียก่อน พบความเสียหายที่มีการขุดไปแล้วเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ส่วนปริมาณคิวดิน ค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการประเมินตรวจสอบและประเมินค่าความเสียหาย โดยประสานงานกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนมมาร่วมตรวจสอบ เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีเอาผิดทางแพ่งให้ผู้กระทำผิดมีการใช้ใช้ความเสียหายคืนแก่รัฐ พร้อมจะเรียกเจ้าของ รวมถึงญาติที่เกี่ยวข้องที่ดูแลที่ดิน สปก.4-01 มาให้การกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อขยายผลโยงเอาผิดกับนายทุน ส่วนคดีอาญาจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดีอาญา ในส่วนของเกษตรกรผู้ครอบครอง จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ เป็นอันดับแรก จากนั้นการดำเนินคดีในส่วนของนายทุน จะมีการขยายผล จากข้อเท็จจริงที่สอบสวน ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากพบใครเชื่อมโยงจะมีการแจ้งดำเนินคดีทันทีทั้งอาญาและทางแพ่ง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่มีการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมดแล้ว เพราะทำให้รัฐเกิดความเสียหาย โดยทางปฏิรูปที่ดินจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
จากแหล่งข่าวเผยว่าลำพังนายทุนระดับผู้นำท้องถิ่นคงไม่กล้ากระทำความผิดลักษณะนี้ได้ นอกจากจะมีผู้อยู่เบื้องหลังที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่เหนือกว่าเป็นผู้บงการ เพราะหลังจากเกิดเรื่องอดีตนายก อบต.ที่ถูกสร้างเป็นตัวละครหลักก็ไม่ยอมพบปะผู้ใด ขณะเดียวกันก็มีผู้โทรศัพท์ไปหาปฏิรูปที่ดินฯเพื่อขอให้ยุติการเดินหน้าเอาผิดกลุ่มนายทุน ซึ่งก็ได้ถูกปฏิเสธในข้อเสนอนั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: