“นครพนม” หน่วยเคลื่อนที่เร็ว QRF กองพันทหารราบที่ 3 รวบหนุ่มรับจ้างขนยาบ้าริมโขง 1.6 แสนเม็ด ร่ำไห้ติดคุกยาวหลายปี แถมถูกหลอกใช้ทั้งที่ไม่ได้เงิน
วันที่ 13 มิถุนายน 2565 เวลา 15.00 น. หน้าที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม นายยุทธพงษ์ มีศรี ปลัดอำเภอท่าอุเทน(ฝ่ายป้องกัน) ร่วมกับ พ.ท.ศรณณัฐ นวลมณี รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 (รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 1) กองพันทหารราบที่ 3 (ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กกล.ฯ),พ.ต.ท.ฌานนท์ เนื่องกัลยา รอง ผกก.สภ.ท่าอุเทน,น.ท.ธนะพงษ์ สุดรักษ์ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง (หน.สน.เรือฯ) หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.),พ.ต.ท.เฉลิมชัย ศรีทอง ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ผบ.ร้อย ตชด.237) ,พ.ต.ท.หญิง วิภารัตน์ พิพิธภัทรานันท์ สารวัตรกองพิสูจน์หลักฐานฯ(สว.พฐ.ฯ) นักวิทยาศาสตร์ (สบ 2) และ ร.อ.ธนากร นาเหล็ก ผบ.ร้อย ทพ.2109 แถลงข่าวการตรวจยึดและจับยาเสพติด(ยาบ้า)พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย
สืบเนื่องจาก พ.อ.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มาขึ้นท่าที่บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านเหล่าสวนกล้วย หมู่ 4 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จึงสั่งการให้ ร.อ.นฤดล อุตม์สีขันธ์ ผบ.ร้อย.QRF (หน่วยเคลื่อนที่เร็ว) วางแผนการปฏิบัติงานและบูรณาร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. ได้สังเกตความเคลื่อนไหวของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีเรือหางยาวแล่นจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้าเทียบท่าริมแม่น้ำโขงบ้านเหล่าสวนกล้วย โดยมีชายสองคนแบกกระสอบต้องสงสัยจำนวน 2 กระสอบมาวางไว้ในพุ่มหญ้าก่อนจะขึ้นเรือขับกลับไปยังฝั่งตรงข้าม
ในเวลาต่อมาประมาณ 10 นาที ได้มีผู้ต้องสงสัยทราบภายหลังว่าชื่อนายตั๊ม อายุ 25 ปี เป็นคนบ้านอ้วน หมู่ 4 ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม อาชีพลูกจ้างเลี้ยงปลาในกระชัง เดินเข้ามาหยิบกระสอบต้องสงสัยทั้งสองบาเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที เบื้องต้นนายตั๊มขัดขืนจะสลัดตัวเพื่อวิ่งหลบหนี แต่ชุดปฏิบัติการล็อกไว้จึงยอมจำนน และนำตัวไปสอบสวนขยายผลยังฐานปฏิบัติการหมวด QRF พบภายในกระสอบบรรจุยาบ้าห่อหุ้มด้วยกระดาษไขสีเหลือง ประทับตรา Y 1 ของชนกลุ่มน้อยรัฐฉานเหนือ โดยมีอักษรภาษาลาวเขียนกำกับบอกสถานที่ส่งปลายทางทุกก้อน และตรวจนับได้ 160,000 เม็ด
นายตั๊มผู้ต้องหาสารภาพว่ารู้จักกับนายออฟมีสัญชาติลาวที่มาอยู่เลี้ยงปลาในกระชังด้วยกัน จากนั้นประมาณ 2 เดือนเศษนายออฟก็ลาออกกลับบ้านเกิด โดยได้แลกเบอร์ซึ่งกันและกันไว้ ต่อมาช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายออฟทักไลน์ชวนขนยาบ้าให้ค่าเหนื่อย 2,000 บาท โดยให้ทำหน้าที่แค่ไปหยิบกระสอบปุ๋ยที่บรรจุยาบ้าบริเวณริมฝั่งโขง แล้วจะนัดหมายว่าให้ไปวางไว้บริเวณไหน จากนั้นจะมีนายแซมซึ่งเป็นชาวบ้านเหล่าสวนกล้วยคนในพื้นที่มารับช่วงต่อเอง ตนเห็นว่าเป็นงานง่ายๆใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็ได้เงิน จึงตกปากรับคำครั้งแรกเป็นกลางเดือนพฤษภาคมนี้เอง โดยลงไปหยิบยาบ้าตามที่นายออฟบอกไปซุกไว้ใต้ต้นไม้ แล้วมีนายแซมซึ่งตนไม่เคยพบหน้าค่าตามาก่อนมาจัดการไป แม้งานครั้งแรกจะผ่านไปด้วยดีแต่ตนยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่นายออฟพูดไว้
ก่อนถูกจับกุมนายออฟก็ทักไลน์ให้ไปจัดการเหมือนครั้งแรก ถึงตนยังไม่ได้เงินค่าจ้างแต่ก็ยอมทำแต่คราวนี้ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้พร้อมของกลาง นายตั๊มพูดทั้งน้ำตาว่ายอมรับชะตากรรม ไม่รู้ว่าต้องติดคุกกี่ปีถึงจะได้รับอิสรภาพ หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำงานเช่นนี้เด็ดขาด
