วันที่ 17 มิ.ย.65 ที่สมาคมนักข่าวจังหวัดนครพนม นางงามพิศ อินทร์ตา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 64 ม.1 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม อุ้มลูกสาววัย 1 เดือน พร้อมสามี คือ นายโกวิท หาวดาวฤทธิ์ มาร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.65 นางงามพิศฯ ได้โอนเงินให้ไปที่ บมจ.กรุงไทย สาขาบิ๊กซีนครพนม เพื่อจ่ายค่าสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 16 มิ.ย.65 เพื่อนำมาขาย ตามโครงการซื้อขายสลากฯ และนำเช็คของทางธนาคารกรุงไทย เพื่อมาเอาสลากฯ ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าผู้แจ้ง ถูกตัดสิทธิ์ เพราะนำเงินมาเข้าธนาคารฯ ช้า ถ้าอยากได้เงินคืนให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วไปที่กองสลากขอเอาโควต้า คืน ตนจึงได้ไปแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองนครพนม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ได้นำเงินจำนวน 35,210 บาท ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขานครพนม ทางเจ้าหน้าที่ทางธนาคาร บอกว่ายังไม่ถูกตัดสิทธิ์ จึงเอาเงินเข้าบัญชีได้ ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ตนได้นำใบเสร็จจ่ายเงินให้กับธนาคารฯ (สลิปเงินโอน) ไปแสดงที่เสมียนตราจังหวัดนครพนม ที่ศาลากลางฯ เพื่อรับสลากฯ แต่ได้รับการปฏิเสธ พร้อมแจ้งว่า จะไม่ได้รับสลากแล้ว ให้เก็บหลักฐานไว้ เพื่อรับเงินคืน ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้จะโทร.แจ้ง แต่ตนไม่ได้รับการติดต่อจากหน่วยงานดังกล่าว
นางงามพิศฯ กล่าวว่า วันนี้ตนจึงมารับสลาก แต่ไม่ได้ เพราะตนถูกตัดสิทธิ์แล้ว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปกับผู้ร้องเรียน ที่ห้องเสมียนตราจังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม เพื่อพบกับ นางธารินี กิริยาดี เสมียนตราจังหวัดนครพนม เพื่อขอทราบเรื่องราวข้อเท็จจริง
โดยนางสาวธารินี กิริยาดี เสมียนตราจังหวัด กล่าวว่าตนเองก็ได้ชี้แจงให้ผู้เสียหายไปแล้วว่าโดนตัดสิทธิ์ไปตั้งแต่งวดที่แล้ว ส่วนเงินที่โอนไปในครั้งใหม่ให้นำเอกสารหน้าเล่มบัญชีธนาคารเพื่อดำเนินการขอเงินคืนจะต้องใช้เวลาสักพัก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายรายก็โดนตัดสิทธิ์ไปแล้วเช่นกัน
