อบต.บ้านค้อ รุดตรวจสอบ บิลค่าไฟ หลังได้รับร้องเรียน เร่งหาทางช่วยเหลือเนื่องจากพบครอบครัวผู้ร้อง มีฐานะยากจน อีกทั้งยังพิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
จากกรณีนางวิวาส อุทำกา ซึ่งร่างกายพิการครึ่งซีก พร้อมนายวายุ อุทำกา บุตรชาย ได้ร้องเรียนไปยังผู้สื่อข่าวและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากได้รับใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นเงินเก้าพันกว่าบาท ทั้ง ๆ ที่ปกติเคยเสียค่าไฟฟ้าประมาณเดือนละ 100 ถึง 200 บาทเท่านั้น ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยติดตามตรวจสอบให้ โดยเบื้องต้นทราบจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วลงดิน ทำให้มิเตอร์ไฟฟ้าหมุนเร็วกว่าปกติ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 เวลา 11.30 น.ได้มีเจ้าหน้าที่จาก อบต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์เดินทางมายังบ้านเกิดเหตุพร้อมตรวจสอบบิลค่าไฟฟ้าของเดิมเปรียบเทียบกับบิลที่เรียกเก็บล่าสุดก็พบว่าปกติบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงตู้เย็นขนาด 4.5 คิว 1 หลัง หลอดไฟส่องสว่าง 3 หลอด และพัดลมหนึ่งเครื่องเท่านั้น ซึ่งปกติจะเสียค่าไฟฟ้าเพียงเดือนละ 100 ถึง 200 บาท บางเดือนก็เสียไม่ถึงร้อยบาทและเพิ่งมาผิดปกติในรอบบิลเดือนเมษายน ที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นเป็น 7 พันกว่าบาทแต่พนักงานจดมิเตอร์ไม่ได้ส่งบิลให้โดยอ้างว่าขอตรวจสอบก่อนเนื่องจากมีการใช้ไฟสูงกว่าปกติมาก จนกระทั่งถึงเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายน ยอดบิลรวมจึงสูงขึ้นถึง 9 พันกว่าบาท ซึ่งภายหลังรับทราบข้อมูลแล้วเจ้าหน้าที่อบต.บ้านค้อจะได้นำไปเสนอนายก อบต.เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
นายกรภักษ์ พิมพานนท์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาย่อยอำเภอโพนสวรรค์ เปิดเผยว่าตอนแรก เจ้าหน้าที่พบว่ามีการค้างชำระค่าไฟนานสองเดือนแล้วจึงออกไปติดตามทวงถามก็ทราบว่าทางชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่าทำไมค่าไฟถึงแพง ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงทำการตรวจสอบให้ก็พบว่ามีสายไฟในบ้านเก่าและชำรุด มีการต่อพ่วงไปหลายจุดก็เลยแนะนำให้เปลี่ยน พร้อมบอกให้เจ้าของบ้านเข้าไปคุยที่การไฟฟ้าโพนสวรรค์ เพื่อพูดคุยกันว่าจะสามารถผ่อนชำระได้เดือนละมากน้อยแค่ไหนแต่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้เข้ามาพูดคุยกัน เลยก็เกิดเป็นข่าวออกทางสื่อต่างๆ เสียก่อน
ส่วนนายวายุ อุทำกา อายุ 37 ปี บุตรชายของนางวิวาส เปิดเผยว่า ที่บ้านมีคนอยู่ร่วมกันรวม 3 คนคือตนและภรรยาอยู่กับแม่ซึ่งร่างกายพิการครึ่งซีกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตนจึงยึดอาชีพรับจ้างทั่วไปแถวๆบ้านเพื่อคอยดูแลแม่พิการ ส่วนภรรยา ก็ให้ไปรับจ้างเก็บมะขามที่จังหวัดเพชรบูรณ์ สองสามเดือนถึงจะกลับบ้านทีหนึ่ง หลังจากที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาทวงหนี้ค่าไฟพร้อมบอกตนว่าสาเหตุที่ค่าไฟแพงเป็นเพราะมีไฟช๊อต ลง กราวน์ เนื่องจากสายไฟฟ้าในบ้านมีสภาพเก่าแล้วให้หาสายไฟมาเปลี่ยนใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเสียค่าไฟแพงแบบนี้ตลอด ตนจึงปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านพร้อมขอกู้เงินโครงการเงินกู้ยืมเพื่อคนยากจน ของหมู่บ้านเป็นเงิน 6 พันบาท เพื่อนำมาจ้างช่างให้เปลี่ยนสายไฟภายในบ้านแล้ว ส่วนค่าไฟที่ค้างจ่ายนั้นก็คงขอผ่อนจ่ายกับการไฟฟ้า เอา แต่คิดว่าคงผ่อนไม่เกินเดือนละ 200 ถึง 300 บาท รวมค่าไฟที่เกิดขึ้นใหม่ในแต่ละเดือนเท่านั้น โดยตนจะหาวิธีลดการใช้ไฟฟ้าในแต่ละเดือนลง เพื่อจะได้ผ่อนให้หมด เร็วๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: