เมื่อพูดถึงการทอผ้า ในแต่ละพื้นที่ ก็มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองวัดศรีบุญเรือง อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เป็นอีกกลุ่มที่มีการสืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ มีลายโบราณเฉพาะ คือลายหมี่นาค ที่มีความสวยงาม แตกต่างหาที่ใดเหมือน ที่สำคัญคือผู้ทำต้องมีความประณีต และละเอียดอ่อนทุกขั้นตอนกว่าจะได้มา
นางสมหมาย นาโพธิ์ ประธานกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองวัดศรีบุญเรือง เปิดเผยว่า เริ่มแรกที่ทำไม่ได้คิดว่าจะทอผ้าลายหมี่นาคเลย เพราะเห็นผู้เฒ่าผู้แก่มัดและทำในแต่ละขั้นตอนแล้วมีความยุ่งยาก แต่ด้วยความสวยจึงไปหาลายที่ง่าย ๆ เช่นลายหมี่โกศและลายอื่น ๆ มาทำก่อน พอเริ่มคล่องก็เริ่มทำลายหมี่นาค และทำมาเรื่อย ๆ จากนั้นก็ชวนเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ มาร่วมกันทำ ช่วงแรก ๆ ก็มี ประมาณ 2-3 คน ต่อมาจึงกลายเป็นกลุ่ม คนที่ทำเป็นแล้วก็กลับไปทอที่บ้าน เมื่อทอเสร็จก็จะมารวมกันขายที่กลุ่มโดยหักเงินจากการขายไว้ผืนละ 10-20 บาท เพื่อเป็นค่าน้ำ – ค่าไฟ สำหรับลายหมี่นาคนั้นมีความแตกต่างจากลายอื่น ๆ ตรงที่จะมีรายละเอียดในลวดลายประมาณ 80 ช่อง ซึ่งมากว่าลายอื่น ๆ หลายเท่าทำให้มีความยากในการมัดขึ้นลายเป็นอย่างมาก ต้องใช้เวลาประมาณ 5 วันถึงจะมัดขึ้นลายเสร็จ เมื่อมัดเสร็จก็จะนำไปย้อมคราม แล้วนำมาเข็น มาปั่นเข้าลอด จึงจะได้เริ่มทอ รวมเวลาแล้วก็ประมาณ 1 อาทิตย์ถึงจะได้เริ่มทอ ซึ่งการทอจะใช้เวลาประมาณ 2 วันจึงจะได้ 1 ผืน
ส่วนการขายนั้นก็มีทั้งประชาชนทั่วไปที่เดินทางมาซื้อ แล้วก็มีพ่อค้าคนกลางจากจังหวัดสกลนครมาซื้อเอาไปขาย ซึ่งราคาที่จำหน่ายก็ไม่แพงอยู่ที่ราคาผืนละ 1,000 บาท โดยขนาดผ้าคือกว้าง 1 เมตร 2 เซนติเมตร ยาว 2 เมตร ซึ่งก็ถือว่าคุ้มกับการลงแรงทำไป เพราะเมื่อเทียบกับการทำนาที่ขายข้าวได้เพียงปีละ 1 ครั้ง การทอผ้าจะได้มากกว่าที่สำคัญคือได้ตลอด ถ้าขยัน 1 อาทิตย์ก็จะได้ประมาณ 2 – 3 ผืน ซึ่งถ้าใครที่สนใจสามารถโทรมาสั่งจองได้ที่เบอร์ 080- 758- 2304 ก็พร้อมยินดีให้บริการ
และนี่คือหนึ่งในลายผ้าไทย ที่เมื่อใครได้สวมใส่ จะต้องหลงใหล บอกว่าชอบ และต้องหาเพิ่มอย่างแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: