มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญถุงยังชีพพระราชทาน มอบให้ 2 ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัยที่อำเภอเรณูนคร
วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่จังหวัดนครพนม ว่าที่ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอเรณูนคร เป็นผู้แทนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดนครพนม เชิญถุงยังชีพพระราชทาน ไปมอบให้กับ2 ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัย ประกอบด้วย ครอบครัวของนายมาโนช สารทอง ที่อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 9 ตำบลเรณู อำเภอเรณูนคร ซึ่งบ้านเกิดเพลิงไหม้เมื่อเวลา 6.30 น. ของวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 เสียหายทั้งหลัง และครอบครัวของนายอาวุธ เตโช ที่อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 9 ตำบลเรณู อำเภอเรณูนคร ซึ่งเป็นบ้านข้างเคียงเสียหายบางส่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นขวัญกำลังใจในการดำเนินชีวิต โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมบริจาคสิ่งของร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อน
ว่าที่ร้อยตรีภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยในพสกนิกรของพระองค์ ทรงต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว อันจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและผ่อนคลายความทุกข์ร้อน อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ทุกคนในครอบครัวที่ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ ให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยความเข้มแข็ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดนครพนม เชิญถุงยังชีพพระราชทานมามอบให้ จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ประสบภัยด้วย โดยตั้งแต่เกิดเหตุขึ้นมา ทุกฝ่ายต่างพยายามให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการช่วยกันดับไฟ การสำรวจประเมินความเสียหายเพื่อหาทางช่วยเหลือ การจัดตั้งศูนย์รับบริจาคเพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ
โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ทางเทศบาลตำบลเรณูจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินทดรองราชการออกมาให้ความช่วยเหลือสำหรับการสร้างบ้านใหม่ให้กับครอบครัวนายมาโนช วงเงินไม่เกิน 49,500 บาท ขณะที่บ้านนายอาวุธจะมีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมให้ตามความเป็นจริง ทั้งนี้อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนขอให้ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าภายในบ้านให้ดี ไม่ว่าจะเป็น สภาพของระบบไฟฟ้า สายไฟ แหล่งจ่ายไฟฟ้า รวมถึงสภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่มีอยู่ภายในบ้าน เพราะไม่ยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียอย่างเช่นครั้งนี้ ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่ายังใช้ได้อยู่ แต่ตามหลักความเป็นจริงแล้วอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างมีอายุการใช้งาน เพราะฉะนั้นเราต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่ายังใช้งานได้จริง ไม่มีปัญหา หรือถ้าเริ่มมีปัญหาก็ควรซ่อมแซมและเปลี่ยนใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ปลั๊กไฟที่พอใช้งานไปนาน ๆ มีการเสียบเข้าถอดออกบ่อย ๆ จะเกิดการหลวมของเต้ารับได้ แม้จะใช้งานได้ แต่ตรงจุดนี้จะมีความร้อนและอาจก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ เพราะฉะนั้นถ้าหลวมก็ควรซ่อมแซมให้กลับมามีสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน หรือไม่ก็เปลี่ยนใหม่ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการฝึกพฤติกรรมที่ปลอดภัย ที่จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้ภายในบ้านแบบไม่รู้ตัว เช่น การเสียบสายไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้แม้ไม่ได้ใช้งาน การเก็บสะสมขยะหรือของที่ติดไฟได้ง่ายเอาไว้ภายในบ้านจำนวนมากจนเกินไป หรือแม้กระทั่งการเปิดวาล์วแก็สทิ้งไว้เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ทั้งสิ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: