วันที่ 11 สิงหาคม 2565 ที่จังหวัดนครพนม ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีชาวบ้านหลังจากเสร็จจากการปักดำเข้าสู่ฤดูฝนฝนตกต่อเนื่องทำให้บริเวณริมถนนสาย 212 นครพนม-บ้านแพงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 254 – 257 ใกล้สี่แยกบ้านเสียวสงคราม – หนองเทา ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ชาวบ้านหลังจากปักดำทำนา เรียบร้อย พากันเข้าป่าออกหาหน่อไม้ กบ ปลาไหล เห็ดป่า หน่อไม้ นำมาวางขายสร้างรายได้เสริมแต่ละวันสร้างเงินสะพัดในพื้นที่วันละหลายพันบาท
โดยชาวบ้านแถบนี้จะปลูกเพิงหมาแหงนแบบง่ายๆ ขายหน่อไม้กินข้างทางหน่อไม้ที่ชาวบ้านนำมาขายเรียกว่าหน่อไม้ไร่บรรจุใส่ถุงขายให้กับผู้สัญจรผ่านไปมาช่วงนี้หน่อไม้ออกใหม่ๆ จะขายในราคาถุงละ 50 บาท 2 ถุง 100 บาท ในช่วงเดือนนี้ราคาถุงละ 35 บาท 3 ถุง 100 บาทจะมีลูกค้าจอดรถแวะซื้ออย่างไม่ขาดสาย
นางบุญเริง โครดา อายุ 62 ปี ชาวบ้านเสียวสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หนึ่งในแม่ค้า ที่ขายของป่าริมทางมานานกว่า 10 ปีเล่าว่าหน่อไม้เหล่านี้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติในพื้นที่ดินสาธารณประโยชน์ชุมชนใช้ร่วมกันที่มีเนื้อที่มากกว่า 1000 ไร่ ใน 1 ปีจะมีโอกาสเก็บหน่อไม้ออกมาขายแค่ครั้งเดียว ตามธรรมชาติหน่อไม้ไร่จะเริ่มแทงโผล่ดินช่วงฝนตกเดือนมิถุนายนและเกิดขึ้นมากมายในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนหลังจากนั้นก็จะลดปริมาณลงในช่วงออกพรรษาของทุกปีช่วงแรกหน่อไม้ขึ้นใหม่ๆ จะมีราคาสูงถึงถุงละ 50 บาทแต่ปีนี้ หน่อไม้ออกเร็วและมากกว่าปกติเนื่องจากฝนตกชุกอย่างต่อเนื่อง ราคาก็อยู่ที่ถุงละ 35 บาทพอปริมาณเพิ่มขึ้นราคาจะลดลงเหลือ 30 บาทถ้าถูกสุดๆ อยู่ที่ 20 บาทแต่ก็ยังไม่พอต่อความต้องการของผู้บริโภคเพราะหน่อไม้ไร่ถือว่าเป็นหน่อไม้ที่เชื่อกันว่าอร่อยที่สุดมีรสชาติหวานทำได้หลากหลายเมนู ซึ่งในแต่ละวันพ่อค้าแม่ขายต้องออกมาไปหาหน่อไม้ตั้งแต่เช้ามืดนำมาล้างทำความสะอาดและปลอกตกแต่งให้ดูสวยงามเพื่อวางบรรจุขายจะมีลูกค้าจอดรถและลงมาซื้อเป็นระยะ หากเหลือจะนำไปแปรรูปเป็นหน่อไม้ดองจะไม่นำหน่อไม้ไปค้างเก่ามาขายอีกเพราะมีอยู่มากมายเน้นขายสดๆใหม่ๆ จากธรรมชาติสร้างรายได้ในแต่ละวันตกอยู่ประมาณ 500-1,000 บาทเลยทีเดียว
