วันที่ 16 สิงหาคม 2565 ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนมที่สถานีวัดระดับน้ำต.หนองแสงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม วัดได้ 7.68 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน ประมาณ 15 เซนติเมตรยังต่ำกว่าระดับตลิ่ง ประมาณ 4.3 เมตรโดยระดับวิกฤติ อยู่ที่ 12.00 เมตร และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนและตามลุ่มน้ำสาขาต่าง ๆ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่เป็นจำนวนมากทำให้ลำน้ำสาขาต่าง ๆ เช่นลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน ห้วยบ่อ และห้วยทวยมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นด้วย
จากการที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเป็นฤดูน้ำหลากของทุกปี ทำให้น้ำในแม่น้ำโขงมีสีขุ่นแดงอันเป็นผลมาจากตะกอนดินโคลนที่ถูกกระแสน้ำชะล้างมา ส่งผลให้การเลี้ยงปลาในกระชังเริ่มมีผลกระทบ เนื่องจากตะกอนดินโคลนที่ไหลมากับกระแสน้ำเกาะเหงือกปลาที่เพิ่งลงเลี้ยงใหม่ๆ ทำให้ปลาที่เพิ่งลงตายเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นตะกอนดินโคลนยังเกาะตาข่ายที่ใช้ทำกระชังทำให้เพิ่มน้ำหนักและไม่สามารถระบายน้ำได้ดีเท่าที่ควรอันเป็นสาตุให้ปลาที่เลี้ยงในกระชังตายได้ง่ายโดยเฉพาะลูกปลาที่เพิ่งลงใหม่ๆ
นายสมภาร มองเคน อายุ 65 ปี ชาวบ้านสำราญใต้หมู่ 3 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ชาวบ้านซึ่งมีอาชีพเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำโขงมานานหลายปีเปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นฤดูน้ำหลากน้ำในแม่น้ำโขงจะเป็นตะกอนดินโคลนขุ่นแดง ผู้เลี้ยงปลาส่วนใหญ่จึงต้องชะลอการลงปลารุ่นใหม่ พร้อมกับเร่งตักปลาที่เลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้ขาย ให้หมด เนื่องจากตะกอนดินโคลนที่ไหลมากับกระแสน้ำจะเกาะเหงือกปลา และตาข่ายของกระชัง ส่งผลให้ปลาที่เลี้ยงไว้ตายเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าขณะนี้ปัญหาน้ำหลากจะน้อยและไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน แต่การที่น้ำไหลเชี่ยวและแรงก็เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของผู้เลี้ยงปลาในกระชังเช่นกัน ส่วนตัวตนได้พักการเลี้ยงปลาในฤดูน้ำหลากไว้ชั่วคราวเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่ปลาอาจตายหรือกระชังถูกกระแสน้ำซัดเสียหาย ประกอบกับราคาหัวอาหารปลาซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการเลี้ยงปลามีราคาเพิ่มสูงขึ้นมาก ตนจึงจะรอให้กระแสน้ำนิ่งกว่านี้เสียก่อนจึงจะกล้าเสี่ยงลงทุนเลี้ยงปลากระชังอีกครั้งหนึ่ง
