เผาแล้วร่าง สห.เหยื่อคมกระสุนโหดรุ่นพี่ ผบ .มทบ.210 พร้อมภรรยาร่วมเป็นประธานพิธีอย่างสมเกียรติ
เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 23 สิงหาคม 2565 ที่บ้านไทยเจริญ ต.โพนแพง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ญาติ ๆ ได้จัดพิธีฌาปนกิจร่าง ส.ต.วัชระ อินาลา อย่างสมเกียรติโดยมี พล ตรี สถาพร บุญชู ผบ.มทบ. 210 และภรรยา ร่วมเป็นประธานในพิธีด้วย
โดยในช่วงเช้า ทางญาติ ได้เตรียมนำร่าง ของส.ต. วัชระ มาไว้ที่วัด โพนแพงเพื่อเตรียมพิธีฌาปนกิจในช่วงเช้า เนื่องจากเป็นประเพณีตามความเชื่อของชาวภูไท ที่สืบต่อกันมาว่าหากผู้ ใดเสียชีวิตผิดธรรมชาติ หรือเสียชีวิตแบบกะทันหัน จะต้องประกอบพิธีฌาปนกิจให้เสร็จสิ้นก่อนเที่ยงวัน พิธีการจึงต้องเริ่มตั้งแต่เช้า แทนที่จะเป็นช่วงบ่ายเหมือนบุคคลทั่วไป
บรรยากาศในเป็นไปอย่างสมเกียรติ โดยมีพลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 210 (ผบ.มทบ. 210) และภรรยา เป็นประธานในพิธี นอกจากนั้นยังมีทหารกองเกียรติยศและเพื่อน ๆ ทหารจากค่ายพระยอดเมืองขวาง เดินทางมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก โดยมีนางสาวสกาวเดือน ขันจันทร์ ภรรยาผู้เสียชีวิตอุ้มบุตรชาย ร่วมส่งร่างสามีเป็นครั้งสุดท้ายท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวและญาติมิตร
โดยส.ต.วัชระ อินาลา สังกัดพลสารวัตรทหาร สังกัดมลฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอกเมืองขวาง จังหวัดนครพนม ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรยามที่ป้อมยามประตูเข้า- ออก ค่ายพระยอดเมืองขวางถูก สารวัตรทหารรุ่นพี่ คือ ส.ท. มานิตย์ จันทะพินิจ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่ป้อมยาม แล้วชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ออกมากระหน่ำยิงจนหมดแม็กกาซีนเกือบยี่สิบนัด กระสุนเจาะร่าง ส.ต.วัชระ จนล้มลงและเสียชีวิตคาป้อมยาม ที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นส.ท. มานิตย์ ก็ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 17.30 น. ภายหลัง ส.ท. มานิตย์ ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม พร้อมรับสารภาพว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง ส.ต. วัชระ จริง ส่วนสาเหตุนั้น ส.ท. มานิตย์ อ้างว่าเป็นความแค้นที่เก็บสะสมมานาน เนื่องจากผู้ตายไม่ค่อยให้เกียรติ และเคารพ รุ่นพี่ วันเกิดเหตุตั้งใจจะออกไปทานข้าวกับแม่นอกค่าย เมื่อถึงป้อมยามพบ ส.ต. วัชระ เข้าเวรยามอยู่แสดงสีหน้าไม่พอใจตน ด้วยความแค้นที่เก็บสะสมมานานจึงชักปืนพกออกมากระหน่ำยิงจนหมดแม็ก แล้วหลบหนีไปหลบซ่อนในป่า หลังจากนั้นก็สำนึกผิดจึงติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อรับกรรมที่ก่อต่อไป
