เจ้าของบ้านเผยนาทีระทึก กระบะหนีตายไล่เหยียบแก๊งจักรยานยนต์ล้อมกรอบ ขณะตำรวจนัดคู่กรณีสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหา
ความคืบหน้ากรณีวัยรุ่นกว่ายี่สิบคน ขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมอาวุธมีดดาบและระเบิดปิงปองไล่ฟันและขว้างระเบิดใส่รถยนต์กระบะของนายมลเทียน ราศี อายุ 26 ปี และน้องชาย อาชีพรับจ้างส่งของ โดยกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์กว่าสิบคันแต่ละคันมีอาวุธครบครันไล่ฟันและปิดล้อมรถยนต์กระบะให้เข้าในถนนภายในหมู่บ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนมหลังจวนตัวนายมลเทียนตัดสินใจ หักรถพุ่งชนรถจักยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น จนได้รับบาดเจ็บขาหักแล้วเสียหลักพุ่งเข้าชนประตูหน้าบ้านของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายส่วนแก๊งวัยรุ่นบาดเจ็บขาหักหนีไม่รอดจนมุมในที่เกิดเหตุสองคน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนางดุลยดา เทียบชัยภูมิ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 6 บ้านหัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม โดยนางดุลยดา เปิดเผยว่าตนไม่เคยพบไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนมันเหมือนเหตุการณ์เหมือนในหนัง ตอนแรกได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังมาจากทางด้านทางเข้าหมู่บ้านหลังจากนั้นก็เห็นขบวนรถมอเตอร์ไซด์วิ่งเข้ามาตามด้วยรถยนต์กระบะสีขาว และมีขบวนรถมอเตอร์ไซด์อีกกลุ่มหนึ่งปิดล้อมด้านหลังของรถยนต์กระบะไว้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรรถยนต์กระบะก็พุ่งชนรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งที่มีคนนั่งมาทั้งหมดสามคน จนล้มลงและรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเข้ากับประตูเหล็กหน้าบ้านจนพังเสียหายอย่างภาพที่เห็น หลังเกิดเหตุหนึ่งในสามของวัยรุ่นที่มากับรถมอเตอร์ไซด์ไม่ได้รับบาดเจ็บได้ถือโอกาศช่วงชุลมุนหลบหนีไปก่อนที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จะมาถึง ส่วนอีกสองคนได้รับบาดเจ็บขาหัก ไปไหนไม่รอดจนมุมในที่เกิดเหตุ ส่วนความเสียหายเบื้องต้นประเมินไว้ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำในตอนบ่ายของวันนี้
นายธีรเดช หฤทวรรธน์กุล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านนาทราย เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่องกลุ่มนี้เป็นการรวม ตัวกันของวัยรุ่นตามหมู่บ้านต่าง ๆ หลายหมู่บ้านเช่นบ้านโคกกุง บ้านหนองค้าและบ้านโพธิ์ตาก ซึ่งกลุ่มนี้ชอบเลียนแบบในโลกโซเชี่ยลออกตระเวนก่อเหตุไล่ทำร้ายวัยรุ่นด้วยกัน เมื่อพบเห็นมาตามลำพัง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหามาตรการกวดขันและติดตามจับกุมมาดัดนิสัยใหม่เนื่องจากล้วนแล้วแต่อายุยังน้อยทั้งนั้น
ด้านพ.ต.อ.ณัฏฐวิทย์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาให้ปากคำแล้ว และหลังจากนั้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิด ขณะเดียวกันได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อรวบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้แล้ว เนื่องจากเป็นพฤติกรรมการก่อเหตุที่อุกอาจต่อเนื่องไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเยาวชน จากหลายหมู่บ้านมารวมตัวกันก่อเหตุเลียนแบบในโซเชี่ยล ซึ่งจะต้องจับกุมและนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: