นครพนม – ยายเด็ก ม. 6 โอดไม่มีเงินจ่ายค่าทำขวัญ หลังโดนแม่เหยื่อเรียก 5 หมื่น ขณะที่ผู้ก่อเหตุรับทำไปเพราะอารมณ์หวงของรักจนขาดสติ
จากกรณีเด็กนักเรียน ม. 6 โรงเรียนดังแห่งหนึ่งในอำเภอศรีสงคราม ก่อเหตุทำร้ายรุ่นน้องชั้น ม. 1 จนบาดเจ็บปากแตกต้องเย็บถึง 5 เข็ม สาเหตุเพียงแค่รุ่นน้องทำลูกตะกร้อกระเด็นโดนรถจักรยานยนต์ ของตนเอง จนนางลัดดา ขันธะเจริญศักดิ์ มารดาของนักเรียนชั้น ม.1 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับเด็กนักเรียน ม. 6 ข้อหาทำร้ายร่างกายเหตุเกิดบริเวณสนามกีฬาของโรงเรียนดังกล่าวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 10 บ้านโพนงาม ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางหอมหวน สมรฤทธิ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นยายของนาย เก่งเจริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ผู้ก่อเหตุ โดยนางหอมหวน เปิดเผยว่า ตนและสามีคือนายแสงทอง สมรฤทธิ์ รับเลี้ยงหลาน ซึ่งเป็นลูกของลูกสาว ที่สามีพาไปทำมาหากินอยู่กรุงเทพ ทิ้งลูกสองคนให้ตาและยายเลี้ยงคือนายเก่ง และน้องอีกคนขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ป. 4 โดยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูกสองคนให้เดือนละ สามพันบาท ส่วนสามีของตนก็พิการขาหัก ได้เบี้ยคนชรา 600 บาทและเบี้ยผู้ผู้พิการอีก เดือนละ 600 บาทก็พออาศัยได้เลี้ยงชีพถูไถไปได้ โดยนอกจากหลานสองคนซึ่งเป็นลูกของลูกสาวแล้วยังมีลูกชายอีกหนึ่งคน อาศัยอยู่ด้วยกัน หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกทำร้าย ก็ได้พากันมาหาเพื่อพูดคุยกันบ้างแล้วเกี่ยวกับค่าทำขวัญและค่าอื่น ๆ ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดแทนหลานทุกอย่าง ทำอย่างไรได้เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วหลานของตนผิดที่ไปทำร้ายเขาก็ขอรับผิดทุกอย่าง จะให้กราบขอโทษตนก็พร้อมกราบเพื่อลูกเพื่อหลาน จะให้ทำอย่างไรก็จะยอมทำทุกอย่าง แต่เรื่องเงินเรื่องทองนั้นก็อย่างที่เห็นตนคงไม่มีให้ถ้าจะเรียกร้องกันถึงสี่ห้าหมื่นบาท
ส่วนนายแสงทอง สมรฤทธิ์ ตาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกตินายเก่ง จะเป็นคนขยันทำงานเก็บเงินเก็บทอง ที่ผ่านมาได้หยุดเรียน 1 ปีเพื่อไปทำงานที่กรุงเทพกับพ่อแม่ จนสามารถเก็บเงินได้ 3 หมื่นบาทจึงนำเงินมาดาวน์รถมอเตอร์ไซด์เพื่อขับไปโรงเรียน โดยต้องส่งค่างวดถึง 70 งวดรวมเป็นเงินถึงสองแสนแปดหมื่นบาทโดยต้องจ่ายงวดละ 3 พันกว่าบาท ซึ่งหลานคนนี้จะหวงรถคันนี้มาก ไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย หลังเกิดเหตุตนก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาช่วยหลานก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามบุญตามกรรมและหวังว่าคงจะสามารถพูดคุยตกลงกันได้
ด้านนายเก่งเจริญ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนนั่งเรียนหนังสืออยู่ข้างใน ก็ได้ยินเสียงครูร้องให้ตนไปดูรถมอเตอร์ไซด์ของตน ตนก็เดินออกไปดูก็เห็นน้องเล่นตะกร้ออยู่ใกล้ ๆ ตรงรถจอด และรับพลาดหลุดมือตะกร้อกระดอนไปโดนล้อ ตนก็ตั้งใจว่าจะไปย้ายรถออกไปจอดที่อื่นแต่น้องเขากลับจับลูกตะกร้อโยนใส่เฟรมรถ ตนจึงเกิดอารมณ์โมโหขาดสติเลยลงมือ ทำร้ายน้องเขา ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิดทุกอย่าง และขอโทษน้องและครอบครัวน้องด้วยที่ทำไปเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบขาดสติ ซึ่งตนจะขอจดจำไว้เป็นบทเรียนต่อไป โดยจะมีการนัดหมายเจรจาตกลงกันที่สถานีตำรวจในวันพรุ่งนี้อีกครั้งหนึ่ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: