วันที่ 19 กันยายน 2565 ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยะบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม พันตำรวจเอก ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครพนม นายธนพัต ทีฆธนานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม และนายอภิสิทธิ์ คิดโสดา หัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมในการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2565 ไม่ว่าจะเป็น สถานที่จัดกิจกรรม การรักษาความปลอดภัย การจราจร และการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-11 ตุลาคม 2565 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนมในช่วงวันออกพรรษา โดยมีการถอดบทเรียนจากปีก่อนหน้ามาเป็นต้นแบบพร้อมปรับปรุงพัฒนาแก้ไขในส่วนที่บกพร่องให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
โดย 2 ปี ก่อนหน้านี้ จังหวัดนครพนมมีการจัดกิจกรรมไหลเรือไฟ เพื่อสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ไม่สามารถจัดให้ยิ่งใหญ่ได้ เนื่องด้วยปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด แต่พอปีนี้สถานกาณ์คลี่คลาย จึงได้บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันจัดมหกรรมที่ยิ่งใหญ่นี้อีกครั้ง มีการสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ จำนวน 12 ลำ โดยลำที่มีขนาดใหญ่สุดปัจจุบันมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 84 เมตร ส่วนความสูงอยู่ที่ประมาณ 26 เมตร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเร่งสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ ถ้านักท่องเที่ยวมาในช่วงนี้จะได้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศและกรรมวิธีในการสร้างเรือไฟ ที่มีความละเอียดอ่อนในทุกขั้นตอนของการสร้าง ไม่ว่าจะเป็น การมัดขึ้นโครงสร้างเรือไฟจากไม้ไผ่นับหมื่นๆลำ การทำตะเกียงไฟมาประดับเรือไฟซึ่งแต่ละลำจะใช้ตะเกียงไฟไม่น้อยกว่า 30,000 ดวงเพื่อให้ได้แสงไฟตามลวดลายที่ได้ร่วมกันออกแบบไว้ ไปจนถึงเทคนิคการทำกระทงสายที่ประดิษฐ์จากกะลามะพร้าว แต่ถ้านักท่องเที่ยวมาในช่วงระหว่างวันงานก็จะได้ชมการไหลเรือไฟโชว์คืนละ 1 ลำ พร้อมกับกระทงสาย โดยในคืนวันที่ 10 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นวันออกพรรษาจะมีการไหลเรือไฟทั้งหมดพร้อมกันรวมกับกระทงสายกว่า 5,000 ดวง กลายเป็นความยิ่งใหญ่ที่งดงามตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าโบสถ์นักบุญอันนา หนองแสง ไปสิ้นสุดที่บริเวณหน้าลานหมู่บ้านชนเผ่า
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมกาชาด เพื่อหารายได้ไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ในพื้นที่ การเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงานได้มีส่วนร่วมในการประดิษฐ์เรือไฟขนาดเล็กจากกาบกล้วยมาวางรวมกันบนเรือไฟโบราณเพื่ออธิฐานขอพร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปล่อยกลางลำน้ำโขงเช่นเดียวกับเรือไฟขนาดใหญ่ การรับชมการประกอบพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ พิธีรำบูชาพระธาตุพนม ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชนเผ่า การเดินแบบผ้าไทย การประกวด To Be Number One การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดัง การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม โดยในปีนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่สนใจและนักสะสมแสตมป์ ที่มีการผลิตแสตมป์ที่ระลึกชุดพิเศษ งานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ให้ทุกคนได้สั่งจองได้ทาง @line ไปรษณีย์นครพนม ในราคา ชุดละ 120 บาท
ข่าวน่าสนใจ:
- “คูโบต้า พลังใจสู้ภัยหนาว” ร่วมกับ“กองทัพบก” จัดคาราวานเสื้อกันหนาว เดินหน้ามอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
- เขาค้อผวา "ทริปน้ำไม่อาบ" นอภ.สั่งตั้งจุดตรวจ เกรงหลังเสร็จกิจกรรมภูทับเบิก แก๊งแว้นเตลิดเขาค้อ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: