นครพนม – ตกลงค่าเสียหายไม่ได้ ตร.ดำเนินคดี ม.6ตามกฎหมาย ให้จบที่ศาล ส่วนยายวอนขอความเมตตา ให้โอกาสหลานสักครั้ง
วันที่ 20 กันยายน 65 จากกรณี นางลัดดา ขันธเจริญศักดิ์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านปากอูน หมู่ 8 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มารดา ด.ช.ต๋อง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอศรีสงคราม เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับนายเก่ง อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกัน ทำร้ายร่างกายลูกชายตนจนมีบาดแผลที่มุมปากด้ายซ้ายเย็บ 5 เข็ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 กันยายน 65 เวลา 11.30 น. ที่บริเวณสนามกีฬาของโรงเรียนดังกล่าว ภายหลังทางโรงเรียนเรียกไปไกล่เกลี่ยขอให้เรื่องจบ แต่ตกลงค่าเสียหายกันไม่ได้ โดยฝ่ายแม่เด็ก ม.1 เรียกค่าเสียหายไป 5 หมื่นบาทส่วนคดีก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไป แต่ฝ่ายยายเด็ก ม.6 ขอต่อรอง เหลือสองหมื่นห้าพันบาท จึงตกลงกันไม่ได้ และจะนัดคุยกันอีกทีที่ สภ.ศรีสงครามในวันนี้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. คู่กรณีทั้งสองครอบครัว ก็ได้เดินทางมาที่สภ.ศรีสงครามตามนัดหมาย โดยร้อยเวรพนักงานสอบสวนได้เป็นตัวกลางช่วยเจรจาเรื่องค่าทำขวัญ แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังยืนยันข้อเสนอเดิม จึงตกลงกันไม่ได้ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
ด้านนางหอมหวล สมรฤทธิ์ อายุ 63 ปี ยายของนายเก่ง ผู้ก่อเหตุเปิดเผยว่าตนและสามีคือนายแสงทอง สมรฤทธิ์ หลังจากเกิดเหตุก็ไม่สบายใจเป็นอย่างมากยอมรับผิดชอบทุกอย่างแต่อยากขอความเห็นใจทางผู้เสียหายบ้างเนื่องจากตนเองฐานะครอบครัวก็ไม่ดียังต้องหาเช้ากินค่ำ สามีก็พิการ จะพยามยามหาเงินมาเยียวยาที่ร้องขอ จำนวน 5 หมื่นบาท ต้องไปหาหยิบยืมญาติพี่น้องลูกหลานถ้าให้มันจบไม่ดำเนินคดีก็อยากให้จบไป แต่อยากให้ลดลงบ้าง พอได้รับคำยืนยันจะมีการดำเนินคดีตนเองและครอบครัวก็ต้องยอมรับขั้นตอนเข้าสู่ขบวนการตามกฎหมายให้ศาลตัดสินต่อไป
ทางด้านนางลัดดา ขันธเจริญศักดิ์ มารดาน้องต๋องผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากตนเองเรียกไป 5 หมื่น ยอมลดให้เหลือ 4 หมื่น แต่ทางด้านครอบครัวนายเก่ง ไม่ยอมจ่าย ก็ปล่อยไปตามขบวนการตามกฎหมายต่อไป
ส่วน ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ในวันนี้ก็จะได้ได้เรียกนางลัดดา ขันธเจริญทรัพย์ มารดา ด.ช.ต๋อง เข้าไปสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพในช่วงบ่าย ก่อนจะเรียกผู้กระทำผิดมาสอบสวนอีกทีในช่วงเย็น เพื่อจะได้ดำเนินการส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ก่อนจะนำตัวส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ต่อไป
