วันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่ค่ายลูกเสือหนองญาติ ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันทำกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2565 ที่จังหวัดนครพนม ร่วมกับ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดนครพนม จัดขึ้น เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงฟื้นฟูความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2533 คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ เป็นวันบำรุงรักษาต้นไม้ประจำปีของชาติ และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และสนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้เห็นถึงความสำคัญของการ ของการบำรุงรักษาต้นไม้และสามารถบำรุงรักษาต้นไม้ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ทั้งเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความอุดมสมบูรณ์ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยกรมป่าไม้ได้มีการจัดกิจกรรมวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติพร้อมกันทั่วประเทศ มาอย่างต่อเนื่องและเป็นประจำทุกปี
โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีทั้งการช่วยกันใส่ปุ๋ยพรวนดินต้นไม้ บริเวณโดยรอบค่ายลูกเสือหนองญาติ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการชุมนุมลูกเสือเนตรนารีของจังหวัดนครพนม เพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดีมีความรับผิดชอบ ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้มีความเจริญก้าวหน้า ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับต้นไม้ เพราะมีต้นไม้นานาชนิดให้ศึกษา การสอนเทคนิคในการดูแลและตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ที่ถูกต้องตามหลักรุกขกรเพื่อให้ทุกคนได้นำไปใช้ตัดตกแต่งกับต้นไม้ใหญ่ของตนเองที่ปลูกที่บ้านให้พ้นจากสายไฟฟ้า กำแพงหรือรั้ว และอาคาร โดยที่ต้นไม้ยังมีความแข็งแรง อายุยืน สามารถใช้พื้นที่ใต้ต้นไม้ได้อย่างปลอดภัย ที่สำคัญคือยังคงมีรูปทรงที่สวยงาม ซึ่งถ้าปฏิบัติไม่ถูกต้อง เช่น การบั่นยอด กุดกิ่ง ตัดโกร๋น หรือการตัดพุ่มใบด้านนอกออกหมด เหลือแต่ตอกิ่ง จะส่งผลเสียอย่างต่อต้นไม้ใหญ่เป็นอย่างมากเพราะเมื่อพุ่มใบถูกตัดทิ้ง ขีดความสามารถในการผลิตอาหารด้วยการสังเคราะห์แสงก็จะลดลงไป ต้นไม้จะดึงเอาพลังงานที่สะสมทั้งหมดไว้มาเร่งสร้างพุ่มใบขึ้นมาใหม่ทำให้ไม่สามารถนำไปสร้างเยื่อ เจริญราก และสร้างเนื้อเปลือกปิดแผล หรือความเสียหายจากโรคและแมลงได้ นอกจากนี้ยังมีการแจกพันธุ์กล้าไม้ จำนวน 1,800 ต้น เพื่อให้ผู้มาร่วมงานได้นำไปปลูกที่บ้านหรือที่ดินของตนเอง ประกอบไปด้วย ต้นสัก จำนวน 500 ต้น ต้นยางนา 600 ต้น ต้นทองอุไร 700 ต้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- ชมรมโฮปฯ ร่วมกับชุมชน จัดกิจกรรม ซานตาโฮป แจกของขวัญให้กับเด็กในชุมชนกว่าพันชิ้น
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: